“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 136 View
- อ่านต่อ
นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2558 ว่า พัฒนาเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ ต้องหยุดเป็นทาสสุรา เร่งทุกฝ่ายปกป้องเยาวชนจากสุรา และลงนามกฎหมายควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตรรอบสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2558 มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน พร้อมจัดกิจกรรมรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ชวนคนไทยงดเหล้าตลอดเข้าพรรษา 3 เดือน
วันนี้ (22 กรกฎาคม 2558) ที่ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล กทม. ศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยศาสตราจารย์ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พระศรีสมโพธิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้แทนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นายแพทย์อำนาย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) แถลงข่าวการจัดกิจกรรมวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2558 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลและองค์กรที่ดำเนินการดีเด่นด้านป้องกันควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 39 รางวัล
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปี เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2551 ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2558 เชิญชวนประชาชนงดดื่มสุรา ตลอดเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบคำขวัญวันงดดื่มสุราแห่งชาติปีนี้ว่า “พัฒนาเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ ต้องหยุดเป็นทาสสุรา” เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักและร่วมมือกันปกป้องอนาคตของชาติ ไม่ให้ถูกมอมเมาด้วยสิ่งเสพติด โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสิ่งเสพติดหาซื้อง่าย
ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2557 พบว่าเยาวชนไทยอายุ 19-24 ปี ที่มีประมาณ 6 ล้านคน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25 หรือทุก 1 ใน 4 คน ชายดื่มมากกว่าหญิง 4 เท่า ดื่มมากสุดคือเบียร์ รองลงมาคือสุราสี และสุรากลั่นชุมชน ในกลุ่มผู้ดื่มสุรา พบว่าร้อยละ 54 เป็นผู้ดื่มหนักจนเมาเป็นประจำเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ดื่มที่บ้าน หอพัก และร้านค้ารอบสถานศึกษา รายงานภาวะสังคมไทยของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในภาพรวมปี 2557 พบว่าประชาชนมีค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 41.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากปี 2556 ที่มีจำนวน 40.55 ล้านบาท
ด้าน ศ. นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าหมายควบคุมจำนวนเยาวชนไม่ให้กลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่เร็วเกินไป โดยผลักดันการออกกฎหมายควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตรรอบสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศ ลดการเข้าถึงแอลกอฮอล์ในกลุ่มนักศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2558 มีผลบังคับใช้หลัง