รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้ภัยโรคอ้วนระบาดทั่วโลก เป็นตัวกวักโรคเบาหวานเยือนตัวเร็วขึ้น คาดปี 2558 ทั่วโลกจะมีคนอ้วน 700 ล้านคน ส่วนคนไทยอายุ 30 ปีขึ้นไปขณะนี้อ้วนแล้ว 15 ล้านคน เตือนคนที่กินแล้วชอบนอนดูทีวี ต้องระวัง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ตามคอนโด อพาร์ทเม้นท์ คือกลุ่มเสี่ยงอ้วน แนะเคล็ดลับสลัดความอ้วนง่ายๆ ให้กินข้าวคำน้ำคำ ช่วยอิ่มเร็วขึ้น วันนี้ (7 สิงหาคม 2550) นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังติดตามการอบรมฟื้นฟูศักยภาพเพิ่มพูนความรู้และทักษะอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนครนายก และจังหวัดปราจีนบุรี ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเพิ่มงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วยให้หนักหน่วงขึ้น เพราะเป็นวิธีการที่ยอมรับกันทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุดในด้านการดูแลสุขภาพ โดยใช้พลังของอสม.ทั่วประเทศซึ่งเป็นตัวแทนภาคประชาชน หมู่บ้านละ 10 คน เป็นแนวรุกให้ความรู้ชาวบ้านป้องกันโรคติดต่อ เช่น โรคไข้หวัดนก โรคไข้เลือดออก และโรคไม่ติดต่อที่กำลังเป็นภัยเงียบระบาดทั่วโลก กำลังมาแรงในศตวรรษนี้และศตวรรษหน้า เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ล้วนมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญมาจากโรคอ้วน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น องค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ประชากรอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไปทั่วโลกอย่างน้อย 400 ล้านคนกำลังป่วยเป็นโรคอ้วน และคาดว่าอีก 8 ปีข้างหน้าจะมีคนอ้วนเพิ่มขึ้นถึง 700 ล้านคน ความอ้วนจะเป็นสาเหตุการสูญเสียเศรษฐกิจ 2-6 เปอร์เซ็นต์ของงบด้านสุขภาพของประเทศ เฉพาะที่สหรัฐอเมริกาประเทศเดียวในช่วง 6 ปีมานี้ มีค่าใช้จ่ายจากความอ้วนสูงถึง 4 ล้านล้านบาท ส่วนไทยพบแนวโน้มคนอ้วนเพิ่มขึ้นน่าเป็นห่วงเช่นกัน จากการสำรวจสภาวะสุขภาพคนไทยอายุ 30 ปีขึ้นไป พบว่าคนอ้วนเพิ่มจากร้อยละ 20 ในปี 2534 เพิ่มเป็นร้อยละ 35 ในปี 2547 หรือประมาณ 15 ล้านคน องค์การอนามัยโลกคาดว่า ในปี 2558 จะมีคนไทยอายุ 30 ปีขึ้นไปเป็นโรคอ้วนร้อยละ 46 หรือกว่า 21 ล้านคน ผู้หญิงเป็นโรคอ้วนมากกว่าผู้ชาย นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้เป็นโรคอ้วนเกิดจากความไม่สมดุล ระหว่างพลังงานที่ได้จากอาหารที่กินเข้าไปกับพลังงานที่ร่างกายใช้ไปในแต่ละวัน ทำให้เกิดการสะสมในร่างกาย เรื่องใกล้ตัวที่เป็นพฤติกรรมเสี่ยงสำคัญที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มเร็ว ต้องระวังคือ การกินแล้วนอนดูทีวี เพราะร่างกายจะเผาผลาญพลังงานที่ได้จากอาหารน้อยมาก เนื่องจากไม่ได้เคลื่อนไหว โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในสังคมเมือง เช่น อยูในอพาร์ทเม้นท์ คอนโด เพราะกินแล้วไม่รู้จะไปไหน จึงนอนดูทีวี ซึ่งทีวีสมัยใหม่เป็นแบบรีโมทเปลี่ยนช่องสะดวกสบาย ไม่ต้องลุกไปกดเปลี่ยนช่องเหมือนแต่ก่อน ขึ้นอาคารก็ใช้ลิฟท์แทนการเดิน ความสะดวกสบายเป็นการนำภัยมาเยือนโดยไม่รู้ตัว หากไม่รู้จักควบคุม จึงต้องเร่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยเฉพาะ 2 เรื่องใหญ่ คือการกินและการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ต้องทำ สิงคโปร์ใช้เวลาแก้เรื่องนี้ 15 ปีจึงสำเร็จ ทั้งนี้การควบคุมการกินไม่ให้กินเกิน หลักง่ายๆ ก็คือแนะให้กินข้าวคำน้ำคำ ทำให้อิ่มเร็วขึ้น ซึ่งแต่ก่อนผู้ใหญ่มักจะห้ามเพราะกลัวกินข้าวได้น้อย นอกจากนี้ ต้องสลัดอารมณ์ความเสียดายอาหารเหลือ กับการเกรงใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานนิสัยคนไทยทิ้งไป เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับอาหารเกิน ให้เพิ่มกินอาหารประเภทปลา เต้าหู้ ผักสดผลไม้ให้มากขึ้น งดน้ำหวาน ขนมหวาน ของทอด ของมัน และออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 40 นาที การเดินเร็วทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคอ้วนได้ร้อยละ 24 และลดโรคเบาหวานร้อยละ 34 ************************************* 7 สิงหาคม 2550


   
   


View 11    07/08/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ