กระทรวงสาธารณสุข สภากาชาดไทย และกรุงเทพมหานคร ร่วมมือฉีดวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก ให้ผู้บริจาคโลหิต 3ล้านคนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ หน่วยเคลื่อนที่รับบริจาคโลหิตกว่า 600 แห่งในกรุงเทพมหานคร พร้อมเชิญชวนผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-50 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนคอตีบ-บาดทะยักเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน ฟรี 
 
          วันนี้ (1 ตุลาคม 2558)ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กทม. นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย  ดร.ผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าว “โครงการฉีดวัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ให้ผู้บริจาคโลหิต 3 ล้านคนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”ระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคม 2558 เพื่อเพิ่มความครอบคลุมการสร้างภูมิคุ้มกันโรคในประชาชนอายุ 20-50 ปี ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 85
 
นายแพทย์ธวัช กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยักในประชากรอายุ 20-50ปี  เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ผลการรณรงค์ทั่วประเทศ  8 เดือนแรก ในปี 2558 มีผู้ฉีดวัคซีนแล้ว 14,634,294 คน คิดเป็นร้อยละ 78 ของประชากรเป้าหมาย ในส่วนของกรุงเทพมหานคร มีผู้ฉีดวัคซีนแล้ว 508,439 คน คิดเป็นร้อยละ 14.8 ของประชากรเป้าหมาย 
 
ดังนั้น เพื่อเพิ่มความครอบคลุมการสร้างภูมิคุ้มกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 85 กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับสภากาชาดไทยและกรุงเทพมหานคร จัดโครงการ ฉีดวัคซีนคอตีบ-บาดทะยักให้ผู้บริจาคโลหิต 3 ล้านคนฯ ระหว่างเดือนกันยายน - ธันวาคม 2558 ณ หน่วยเคลื่อนที่รับบริจาคโลหิตกว่า 600 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร
 
ด้านนายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มีความยินดีอย่างยิ่งให้การสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข และพร้อมที่จะจัดหาผู้บริจาคโลหิตให้บรรลุตามเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
 
ด้านดร.ผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ให้บริการและประชาสัมพันธ์ประชาชนในการมารับฉีดวัคซีน ทั้งที่พักอาศัยอยู่จริง และที่เดินทางมาทำงานจากต่างจังหวัด รวมถึงแรงงานต่างด้าวในกรุงเทพมหานครด้วย
 
ทั้งนี้ โรคคอตีบเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจที่มีความรุนแรง ในผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรค อัตราการเสียชีวิต สูงถึงร้อยละ 20 โดยในปี 2555 ประเทศไทย พบการระบาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นผู้ป่วยในวัยผู้ใหญ่มากถึงร้อยละ 56 โดยเป็นกลุ่มที่เกิดก่อนการให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาวิจัยที่พบผู้ใหญ่อายุ 20-50 ปี มีระดับภูมิคุ้มกันโรคต่ำกว่าวัยอื่นๆ จึงขอเชิญชวนประชาชนอายุระหว่าง 20-50 ปีทั่วประเทศเข้ารับการฉีดวัคซีนคอตีบ-บาดทะยักที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 
 
 
 ************************* 1 ตุลาคม 2558
 


   
   


View 17    06/10/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ