กระทรวงสาธารณสุข ส่งหน้ากากอนามัย 70,000 ชิ้น ให้สถานพยาบาลในสังกัด จัดเตรียมยาเวชภัณฑ์พร้อมบริการตลอด 24 ชม. แนะประชาชน 4 กลุ่มเสี่ยง ในจังหวัดที่มีคุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน ให้อยู่ในบ้าน งดกิจกรรมกลางแจ้ง ขณะนี้พบผู้ได้รับผลกระทบประปราย เช่น ตาแดง แสบตา ยังไม่มีรายใดอาการรุนแรง   

          ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล  สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์หมอกควันไฟในภาคใต้ว่า ในวันนี้ (5 ตุลาคม 2558) ได้รับรายงานว่า จังหวัดสงขลา ยะลา และสตูล มีค่าเฉลี่ยหมอกควันเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ที่ 171, 144, 141 ตามลำดับ ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา ให้ความรู้คำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน ที่น่าเป็นห่วงคือ 4 กลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบง่ายกว่าคนทั่วไป คือ 1.ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด 2.ผู้สูงอายุ 3.เด็กเล็ก และ4.หญิงตั้งครรภ์  หากไม่จำเป็นขอให้อยู่ในบ้าน งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง ให้ดื่มน้ำมากๆ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งหน้ากากอนามัยให้ 7 จังหวัด จังหวัดละ 10,000 ชิ้น ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน คือ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล และสงขลา และสำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 20,000 ชิ้น พร้อมให้สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ เตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ภาพรวมผลกระทบด้านสุขภาพยังไม่พบประชาชนมีอาการรุนแรง คงให้เฝ้าระวังและให้คำแนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง

          ด้านนายแพทย์สุวิช  ธรรมปาโล  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา กล่าวว่า จากการติดตามจากสถานการณ์หมอกควันขณะนี้ มีประชาชนได้รับผลกระทบประปราย เช่นแสบตา แสบคอ ยังไม่มีรายใดมีอาการรุนแรงถึงต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ ได้เร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ท้องถิ่น ให้ความรู้การดูแลตัวเอง และรายงานสถานการณ์หมอกควันร่วมกับกรมควบคุมมลพิษวันต่อวัน ให้ประชาชนเตรียมพร้อมอย่างทันท่วงที โดยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

สำหรับการป้องกันผลกระทบสุขภาพจากหมอกควันไฟ ขอให้ประชาชนปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1.ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด โดยเฉพาะตอนเช้า เนื่องจากหมอกควันจะลอยต่ำเพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสหมอกควัน 2.ควรทำความสะอาดบ้านเพื่อลดปริมาณฝุ่น 3.ใช้หน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากและจมูกและเปลี่ยนทุกวัน 4.ควรงดการทำกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่น หรือทำงานหนัก เนื่องจากจะเพิ่มการสูดละอองควันไฟเข้าร่างกายมากขึ้น หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ระคายคอ กรณีของหญิงตั้งครรภ์หากลูกในครรภ์ไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรแจ้งที่หมายเลย 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง

 ********************* 5 ตุลาคม 2558



   
   


View 11    05/10/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ