สธ. เตือนกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคหอบหืด ในพื้นที่หมอกควัน เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง แนะใช้ผ้าชุบน้ำปิดปาก-จมูกหรือใส่หน้ากากอนามัย

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงประชาชนภาคใต้ตอนล่าง ที่มีปริมาณค่าฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐาน เตือนเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้ง   โดยเฉพาะผู้สูงอายุ  เด็กเล็ก  ผู้ป่วยโรคหอบหืด หากต้องออกนอกบ้านแนะใช้ผ้า

ชุบน้ำปิดปากหรือใส่หน้ากากอนามัย เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่พาหนะมากขึ้น กำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทีมหมอครอบครัว อสม. ให้คำแนะนำ และแจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเสี่ยงแล้วกว่า 55,000 ชิ้น

        นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงสถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้านระลอกใหม่ ที่ได้พัดปกคลุมภาคใต้ในหลายพื้นที่  เริ่มมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี  เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งมีผลต่อสุขภาพจากกลิ่นควันไฟ อาการระคายเคืองตา แสบตา หายใจอึดอัด  กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หมออนามัย ทีมหมอครอบครัวและอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ออกให้คำแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตัว พร้อมแจกหน้ากากอนามัยในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคหอบหืดและโรคระบบทางเดินหายใจ  ขณะนี้แจกไปแล้ว 55,700 ชิ้น อยู่ระหว่างจัดส่งอีก 40,000 ชิ้น

         นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า กล่าวว่า ขอให้ประชาชน ติดตามรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ  ระวังการสูดดมหมอกควันเข้าไปในร่างการ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ โรคหอบหืด ในขณะที่ผู้สูงอายุ และเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ หากต้องออกจากบ้านควรใช้ผ้าชุบน้ำปิดปากและจมูก หรือใส่หน้ากากอนามัย  หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการออกกำลังกาย  ปิดประตูหน้าต่างไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในบ้านเรือน หรืออาคาร ดื่มน้ำมากๆ หรือใช้น้ำเกลือกลั้วคอป้องกันการเจ็บคอ งดการสูบบุหรี่ งดเผาขยะ หากมีโรคประจำตัว ควรเตรียมยา และอุปกรณ์ที่จำเป็น หรือถ้ามีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที   ในส่วนของการใช้พาหนะควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

          ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ  รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ ในภาคใต้  7 จังหวัด วันนี้ (22 ตุลาคม 2558) เวลา 09.00 น.คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะที่จังหวัดสงขลา พบปริมาณฝุ่นละอองสูงสุด 360 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบสุขภาพมาก รองลงมาส่วนที่สตูล ปัตตานี สุราษฏร์ธานี  ยะลา   ก็ส่งผลกระทบด้านสุขภาพเช่นกัน  มีเพียงภูเก็ตที่คุณภาพอากาศปานกลาง

        โดยค่าฝุ่นละออง หากเกิน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยโรคทางเดินหายใจ และในเด็กจะมีอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ระคายเคือง แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอ คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก อึดอัดแน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน

                                                                  ************************  22 ตุลาคม 2558