กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมรับสังคมผู้สูงอายุ จัดระบบการดูแลที่มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน เร่งค้นหาผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียงใน 1,092 ตำบลเป้าหมาย เฉพาะที่ภาคอีสาน คัดกรองใน 370 ตำบล คาดว่าจะมีผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียง ร้อยละ 10-15 ของผู้สูงอายุทั้งหมดในภาคอีสาน
 
วันนี้ (25 มกราคม 2559) ที่โรงแรมพูลแมน จ.ขอนแก่น ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  เปิดประชุมพัฒนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดำเนินงาน โครงการพัฒนาระบบดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่ตำบล Long Term Care “รวมพลังขับเคลื่อนสังคมผู้สูงวัย เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้” โดยมีผู้บริหารจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และผู้รับผิดชอบงานการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว ทั้งในระดับเขต จังหวัด และพื้นที่ และเครือข่าย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20จังหวัด จำนวนประมาณ 1,200 คน ร่วมประชุม
 
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ภายในปี 2568 นี้ จะมีผู้สูงอายุประมาณ 14.4 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด กล่าวคือจะมีผู้สูงอายุ 1 คนในประชากรทุก 5 คน การจัดการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวจึงเป็นเรื่องสำคัญ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการพัฒนาระบบดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่ตำบล (Long Term Care) จัดระบบการดูแลที่มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่การบูรณาการ 5กลุ่มวัยในตำบลจัดการสุขภาพ ซึ่งในปี 2559 รัฐบาลให้ความสำคัญการดูแลผู้สูงอายุ ได้อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาท มีเป้าหมายดำเนินการใน 1,092 ตำบลทั่วประเทศ เพื่อดูแลผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง 100,000 คน สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีการดำเนินการคัดกรองผู้สูงอายุใน 370 ตำบล คาดว่าจะเป็นผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียงประมาณร้อยละ 10 -15 ของผู้สูงอายุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
 
          สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข กำลังเร่งดำเนินการมีดังนี้ 1.ให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ค้นหากลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง ในตำบลเป้าหมาย ให้แล้วเสร็จพร้อมส่งข้อมูลให้ศูนย์อนามัย กรมอนามัยภายใน 31มกราคมนี้ 2.จัดการอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) หลักสูตร 70 ชม. ให้เสร็จใน 28 กุมภาพันธ์นี้  โดยในระยะเร่งด่วนนี้ได้จัดอบรม 2 วัน  และอบรมต่อให้ครบตามหลักสูตรต่อไป เพื่อดูแลผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียง ตำบลละไม่น้อยกว่า 10 คน ในตำบลพื้นที่เป้าหมาย  กำหนดผู้ดูแลผู้สูงอายุ 1 คนจะดูแลผู้สูงอายุ 10 คน 3.ส่งเสริมให้คนในครอบครัวผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียง เป็น อาสาสมัครประจำครอบครัว (อสค.) อีกด้วย เพื่อช่วยดูแลผู้สูงอายุให้ครอบคลุมต่อเนื่อง 4.ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ คัดเลือกผู้จัดการ การดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) จำนวน 1 คนดูแลรับผิดชอบ 1 ตำบล ทำหน้าที่วางแผนการดูแลผู้สูงอายุรายบุคคล และเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิงต่อไป
 
ทั้งนี้ การดำเนินงานทั้งหมด จะเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เช่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล นายกเทศมนตรี เป็นประธาน คณะกรรมการกองทุนตำบล เป็นต้น  เพื่อให้ผู้สูงอายุต้องได้รับการดูแลบริการที่ดีมีคุณภาพมาตรฐานจากอาสาสมัครประจำครอบครัว ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้จัดการ การดูแลผู้สูงอายุ และทีมหมอครอบครัวโดยในปี 2561 จะขยายให้ครอบคลุมครบทุกตำบล 100 เปอร์เซ็นต์       
         
       ************************ 25 มกราคม 2559
 
 
 
 
 
 
 
 
 


   
   


View 15    25/01/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ