คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบการสร้างความมั่นคงวัคซีนของประเทศไทย ด้วยระบบคลังสำรองวัคซีนชาติ และสนับสนุนการอุตสาหกรรมวัคซีนในประเทศให้เข้มแข็ง เพื่อความยั่งยืน ให้ไทยมีความมั่นคงด้านวัคซีน ประชาชนเข้าถึงการป้องกันโรคด้วยวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เป็นธรรม

            วันนี้ (1 กรกฎาคม 2559) ที่ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล  พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2559 โดยในวันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบเชิงนโยบายใน ประเด็นได้แก่การสำรองวัคซีนแห่งชาติ  การสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนในประเทศ และการปรับปรุงกลไกการพิจารณาวัคซีนใหม่มาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศ  เพื่อให้ไทยมีความมั่นคงด้านวัคซีน ประชาชนเข้าถึงการป้องกันโรคด้วยวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เป็นธรรม ตามยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ  

            โดยในการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ มี เรื่องใหญ่ๆคือ  1.ระบบการสำรองวัคซีนแห่งชาติ  เพราะไทยและทั่วโลก มีโอกาสเสี่ยงขาดแคลนวัคซีนทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน ต้องมีระบบการสำรองวัคซีนแห่งชาติ(National Vaccine Stockpile)ซึ่งการสำรองวัคซีนมี ลักษณะ คือ คลังกายภาพ เป็นคลังสำรองวัคซีนของผู้ซื้อ(ซื้อวัคซีนมาเก็บไว้เอง )ซึ่งมีการสำรองที่กรมควบคุมโรคและองค์การเภสัชกรรม  และคลังเสมือนจริงเป็นการสำรองวัคซีนไว้ที่บริษัทผู้ผลิต ทำสัญญาผลิตและส่งมอบเมื่อต้องการ มอบให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำระบบการสำรองวัคซีนเป็นรูปธรรมภายใน เดือน

 2. การสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนในประเทศ  ขณะนี้ประเทศไทยนำเข้าวัคซีนสำเร็จรูป วัคซีนเข้มข้นหลายชนิด มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท ต่อปี แนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีวัคซีนที่ผลิตได้ในประเทศ จากองค์การเภสัชกรรม ผลิตวัคซีนเจอีชนิดเชื้อตาย ไข้หวัดใหญ่  สภากาชาดไทย วัคซีนวัณโรค พิษสุนัขบ้า ไข้หวัดใหญ่ คอตีบ บาดทะยัก และเจอีชนิดเชื้อตาย  บริษัทร่วมทุน/ภาคเอกชน เจอีชนิดเชื้อเป็น ตับอักเสบบี โปลิโอชนิดกิน ไอกรนชนิดไร้เซลล์ โดยจะให้การสนับสนุนทั้งภาครัฐ เอกชน ทั้งด้านวิจัยพัฒนา  การผลิต การจัดซื้อจากผู้ผลิตภายในประเทศ รวมทั้งปรับแก้กฎระเบียบในการจัดหาวัคซีนให้มีความเหมาะสม  เป็นต้น

            “การสร้างความมั่นคงวัคซีนของประเทศ เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกับการสร้างความมั่นคงทางทหาร ทางพลังงาน เพราะเมื่อเกิดโรคระบาดขึ้น ไม่มีใครช่วยเราได้ เราต้องช่วยเหลือตนเอง เพราะฉะนั้น การมีระบบสำรองวัคซีน ทั้งการซื้อ ทั้งการจอง ก็ต้องดำเนินการ รวมทั้งการสร้างความยั่งยืนด้วยการสนับสนุนการผลิตวัคซีนในประเทศ  สนับสนุนภาคเอกชนให้อยู่รอด ด้วยการซื้อวัคซีนที่ผลิตในประเทศ  สนับสนุนงบประมาณให้ภาครัฐ ทั้งการปรับโครงการ พัฒนาบุคลากร การปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ”  พลเรือเอก ณรงค์ กล่าว

    ส่วนการปรับปรุงกลไกการพิจารณาวัคซีนใหม่มาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศ  เห็นชอบให้ปรับปรุงให้รวดเร็ว และลดความซ้ำซ้อน รวมทั้งนำวัคซีนที่ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแล้ว คือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกและไวรัสโรต้า เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ให้เด็กไทยได้รับวัคซีนที่จำเป็น ป้องกันการเสียโอกาสในการป้องกันโรคที่มีความรุนแรง เป็นสาเหตุให้ป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตโดยพิจารณาจากประโยชน์ของประชาชนและความสามารถในการจัดงบสรรประมาณของรัฐบาล                                     

                                                                   *************************  1 กรกฎาคม 2559

 

 

 

 

 

 

 

 

******************************

 

 

 



   
   


View 15    01/07/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ