พลเรือเอกณรงค์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ติดตามความคืบหน้าร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. ... รับฟังความเห็นจาก 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคีบหน้าร่าง พ.ร.บ.  ก่อนเสนอครม.พิจารณา

วันนี้ (31 สิงหาคม 2559) ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2559 โดยมีนพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยมีวาระสำคัญคือการติดตามความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ.... ซึ่งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้จัดทำขึ้น เพื่อเร่งรัดการนำเสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ต่อครม. โดยได้รับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 10 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กพ. กพร. สำนักงบประมาณ และฝ่ายกฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งหน่วยงานส่วนใหญ่ให้ความเห็นสนับสนุน และหลายหน่วยงานให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น  

พลเรือเอกณรงค์กล่าวต่อว่า หากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ผ่านการพิจารณาของครม. และสนช. จะทำให้ประเทศไทยมีกลไกที่มีความเข้มแข็งในการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศที่จะพึ่งพาตนเองมากขึ้น ทั้งด้านการวิจัย พัฒนา ผลิต และจัดหาวัคซีนที่จำเป็น มาใช้ในการป้องกันและควบคุมโรคที่เป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน และลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมจากโรคติดต่อต่างๆ

นอกจากนี้ ได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงกลไกการพิจารณานำวัคซีนใหม่มาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค  เพื่อให้บริการแก่เด็กและประชาชนทั่วประเทศ  โดยเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ  พิจารณาปรับปรุงแนวทางและขั้นตอนการพิจารณาวัคซีน  เพื่อลดความซ้ำซ้อนและมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้พิจารณาการนำวัคซีนใหม่เข้าบัญชียาหลักได้รวดเร็วขึ้น สำหรับการพิจารณานำวัคซีนเอช พี วี (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก) เข้าบัญชียาหลัก  ให้ประสานงานเร่งดำเนินการ  เพื่อให้สามารถนำวัคซีนมาเริ่มต้นให้บริการแก่เด็กนักเรียนหญิง ป.5   ตามแผนของกระทรวงสาธารณสุขและสปสช.       

******************************************    31 สิงหาคม 2559

 



   
   


View 14    02/09/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ