สธ. เดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ถ่ายทอดนโยบายปี 2560 สู่ผู้บริหารส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ

 กระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารทั่วประเทศ ถ่ายทอดยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีและนโยบาย สู่การปฏิบัติในปี 2560 ภายใต้ยุทธศาสตร์ความเป็นเลิศ 4 ด้าน ประกอบด้วย 16 แผนงาน 48 โครงการ 96 ตัวชี้วัด

วันนี้ (15 กันยายน 2559) ที่โรงแรมเซนทราศูนย์ราชการฯ กรุงเทพฯ ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมชี้แจงยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ด้านสาธารณสุข แผนการตรวจราชการ และนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 เพื่อถ่ายทอดนโยบาย ยุทธศาสตร์สำคัญ และตัวชี้วัดการทำงานไปสู่การปฏิบัติ โดยมีผู้บริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศกว่า 1,500 คน เข้าร่วมประชุม

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ด้านสาธารณสุข ตามนโยบายการปฏิรูปประเทศไทยของรัฐบาล เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไทยที่กำลังสู่สังคมผู้สูงอายุ  พฤติกรรมสุขภาพประชาชนที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น โรคติดต่ออุบัติใหม่/อุบัติซ้ำ การบาดเจ็บจากการจราจร การคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดวิสัยทัศน์เป็นองค์กรหลักด้านสุขภาพ ที่รวมพลังสังคมเพื่อประชาชนสุขภาพดี  มีเป้าหมายให้ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน โดยพัฒนาความเป็นเลิศ 4 ด้าน ได้แก่ 1.การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค (P&P Excellence) 2.ระบบบริการ (Service Excellence) 3.การพัฒนาคน (People Excellence) และ4.ระบบบริหารจัดการ (Governance Excellence) ภายใต้การดำเนินงานร่วมกันตามค่านิยมองค์กร MOPH : Mastery ความเป็นนายตนเอง Originality สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อระบบสุขภาพ People centered approach ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง Humility อ่อนน้อมถ่อมตน

ด้านนพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปี 2560 จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติภายใต้ ยุทธศาสตร์ความเป็นเลิศ ประกอบด้วย 16 แผนงาน 48 โครงการ  96 ตัวชี้วัด มีประเด็นที่ให้ความสำคัญดังนี้ 1.การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค (P&P Excellence) การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยทุกกลุ่มวัย จะเน้นในเด็กปฐมวัย และผู้สูงอายุ (Long Term Care) ระบบการป้องกันควบคุมโรค ตามแผนยุทธศาสตร์โรคติดเชื้ออุบัติใหม่หรือโรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ (Emerging Infectious Diseases : EID) โดยเฉพาะวัณโรค การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อตามยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย การคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ สร้างโรงพยาบาลที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green and Clean Hospital) เพื่อเป็นต้นแบบของโรงพยาบาลในอนาคต นำร่องในโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 10 แห่ง 

2.ระบบบริการ (Service Excellence) จะเน้นลดอัตราป่วยโรคไตเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจ ลดตายจากโรคหลอดเลือดสมอง และลดการส่งต่อ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ จะพัฒนาคลินิกหมอครอบครัวขยายครอบคลุมทั่วประเทศ อย่างน้อยจังหวัดละ 2 แห่ง รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลให้ผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานเอชเอ และการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล (RDU) 3.การพัฒนาคน (People Excellence) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาค่านิยมองค์การ MOPH กับบุคลากรสาธารณสุข 4 แสนคน การพัฒนาดัชนีชี้วัดความสุขของบุคลากร (Happy Work Life Index) เป็นต้นแบบในการดูแลความสุขของบุคลากรทั่วประเทศ และ4.ระบบบริหารจัดการ (Governance Excellence) ด้วยธรรมาภิบาล เน้นความโปร่งใส มีระบบข้อมูลที่มีคุณภาพ การพัฒนากฎหมายและระบบไอที  

 *************  15 กันยายน 2559