วันนี้(19 กันยายน 2559)ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมวาระพิเศษทางไกลผ่านระบบวีดิโอ โดยประเทศไทยเป็นแม่ข่ายในการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดีโอ เพื่อหาแนวทางความร่วมมือของการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกาในภูมิภาคอาเซียน ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศบรูไน ในฐานะประธานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแห่งอาเซียน โดยมีรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน 10 ประเทศร่วมประชุม ได้แก่ มาเลเซีย พม่า กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ เวียดนาม บรูไนดารุส-ซาลาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย และองค์การอนามัยโลกสำนักงานใหญ่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสซิกาทั่วโลกรวมทั้งภูมิภาคอาเซียน มีรายงานการพบผู้ป่วยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้ภาวะแทรกซ้อนเด็กทารกแรกเกิดศีรษะเล็กผิดปกติจากโรคติดเชื้อไวรัสซิกา เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข ที่นานาชาติจะต้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยพบว่าโรคนี้มีความความเชื่อมโยงกับทารกแรกเกิดจากมารดาที่ติดเชื้อไวรัสซิกามีศีรษะเล็กหรือสมองเล็ก(microcephaly)และอาจเชื่อมโยงกับอาการเส้นประสาทอักเสบ(GBS-Guillain-Barré syndrome)แม้ว่าโรคติดเชื้อไวรัสซิกา จะทำให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย และสามารถหายได้เอง ประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียนได้มีการดำเนินการมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่หลากหลาย ทั้งการควบคุมแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลาย การสื่อสารสาธารณะ และมาตรการป้องกันควบคุมโรคอื่นๆ แต่จากประสบการณ์การป้องกันควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่และโรคติดต่ออุบัติซ้ำที่ผ่านมา พบว่าผลกระทบของโรคเหล่านี้ ไม่เพียงทำให้เกิดจากเจ็บป่วย การพิการ หรือ การเสียชีวิต แต่ยังผลกระทบวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความตื่นตระหนกของประชาชน

กระทรวงสาธารณสุขไทย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศบรูไน จัดการประชุมวาระพิเศษทางไกลผ่านระบบวีดิโอครั้งนี้ขึ้น เพื่อหาแนวทางความร่วมมือเตรียมพร้อมและสร้างความเข้มแข็งรับมือกับโรคไวรัสซิกาในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีแนวทางความร่วมมือ 5 ข้อ คือ 1.ยกระดับกลไกเฝ้าระวังในประเทศตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก 2.การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศภายใต้กลไกกฎอนามัยระหว่างประเทศ 3.เพิ่มประสิทธิภาพกลไกเฝ้าระวัง และตอบโต้โรคอุบัติใหม่ภายใต้กลไกอาเซียน 4.เพิ่มศักยภาพการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการควบคุมลูกยุงพาหะนำโรค 5.แลกเปลี่ยนความรู้ การวิจัย และการปฏิบัติ ผ่านกลไกอาเซียนและความร่วมมืออื่นๆ

“ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของยุงลายบ้าน ที่เป็นพาหะหลายโรคด้วยกัน เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย โรคติดเชื้อไวรัสซิกา ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันละควบคุมโรคดังกล่าวคือ การกำจัดยุงพาหะนำโรค ด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ร่วมกับการป้องกันไม่ให้ยุงกัด ”ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าว

ทั้งนี้ โรคติดเชื้อไวรัสซิกา มียุงลายเป็นพาหะสำคัญ อาการป่วยที่พบบ่อย ได้แก่ มีไข้ มีผื่น ปวดกล้ามเนื้อ ตาแดง ปวดศีรษะ ส่วนใหญ่หายเองภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนน้อยที่มีอาการเส้นประสาทอักเสบ และมีหลักฐานพบว่า การติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์ อาจทำให้ทารกแรกเกิดมีศีรษะเล็กได้ ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

****************************** 19 กันยายน 2559

 

 

 



   
   


View 15    19/09/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ