รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมเตรียมการจัดหน่วยบริการทางการแพทย์ จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ และอบรมจิตอาสา ร่วมปฏิบัติงานในศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข รองรับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่บริเวณรอบสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ ส่วนต่างจังหวัดให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดรับผิดชอบจัดทีมแพทย์ดูแลประชาชน  

          วันนี้ (22 กันยายน 2560) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศาสตราจารย์คลินิก  เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่คณะกรรมการฝ่ายพิธีการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมรับผิดชอบในการจัดหน่วยแพทย์และหน่วยปฐมพยาบาลตลอดงานนั้น กระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขของกระทรวงฯ เพื่อสนับสนุนกองแพทย์หลวง และกรมการแพทย์ทหารบก ในการจัดหน่วยแพทย์ปฐมพยาบาลและทีมกู้ชีพบริเวณรอบสนามหลวง  พระบรมมหาราชวัง พระเมรุมาศ และริ้วขบวน รวมทั้งร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งประกอบด้วย  กรุงเทพมหานคร  โรงพยาบาลเหล่าทัพ  โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัย  โรงพยาบาลเอกชน  แพทยสภา มูลนิธิ และจิตอาสา จัดหน่วยแพทย์ปฐมพยาบาลที่จุดบริการหลัก และประจำซุ้มดอกไม้จันทน์ ทั้งด้านกายและจิตใจ ระบบการส่งต่อ-ส่งกลับผู้ป่วย ตลอดงานพระราชพิธี เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2560 จนเสร็จสิ้นพระราชพิธี เพื่อให้การดูแลสุขภาพประชาชน ซึ่งจะมีผู้สูงอายุเดินทางมาร่วมพระราชพิธีเป็นจำนวนมาก ได้เน้นย้ำให้จัดระบบการประสานงานและเตรียมเส้นทางในการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินไปโรงพยาบาลที่เตรียมไว้ให้เร็วที่สุด

          ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในระหว่างงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้กองสาธารณสุขฉุกเฉินเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ที่ส่วนกลาง และให้กรมการแพทย์รับผิดชอบประสานงานโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  จัดบุคลากรปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข  ทั้งที่จุดบริการหลักซึ่งมี 21 จุด และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ที่มี 113 จุด จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และชุดทีมเดินเท้า ดูแลประชาชนบริเวณรอบนอกและพระเมรุมาศจำลอง 4 มุมเมือง จำนวน 2 จุด คือพุทธมณฑล จ.นครปฐม และสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  ส่วนในต่างจังหวัดให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเปิด EOC  และรับผิดชอบในการบริหารจัดการ   จัดทีมแพทย์ประจำจุดพระราชพิธี รถพยาบาล และโรงพยาบาลรับ-ส่งต่อ นอกจากนี้ ให้รับสมัครจิตอาสาด้านการแพทย์ พร้อมแจกคู่มือและอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการฟื้นคืนชีพ พร้อมให้การดูแลประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข  ได้จัดหน่วยแพทย์ดูแลประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ ณ จุดบริการทางการแพทย์ที่ท้องสนามหลวง ตั้งแต่เริ่มงานพระราชพิธีพระบรมศพจนถึงปัจจุบันมีผู้รับบริการกว่า 3.2 ล้านคน และจะยังคงให้บริการต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560  

  ***************************  22 กันยายน 2560



   
   


View 32    22/09/2560   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ