ศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร ปรับแผนดูแลประชาชนที่มากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำควรเตรียมตัวให้พร้อม ผู้มีโรคประจำตัวควรพกยาประจำตัวมาด้วย
วันนี้ (1 ตุลาคม 2560) นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร ที่บริเวณท้องสนามหลวง ว่า จากการที่สำนักพระราชวังได้ประกาศเลื่อนกำหนดวันสุดท้ายของการกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นวันที่ 5 ตุลาคม 2560 ทำให้มีประชาชนเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพเพิ่มขึ้น มีจำนวนประมาณ 60,000 – 70,000 คนต่อวัน รัฐบาลได้กำชับให้ทุกหน่วยงานดูแลประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง และบริเวณสนามหลวงอย่างดีที่สุด
ดังนั้นศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข จึงได้ปรับแผนในการให้บริการ โดยเพิ่มบุคลากรการแพทย์เพื่อให้การดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยทั่วไป หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนเตรียมจัดหน่วยแพทย์ ชุดแพทย์เคลื่อนที่ และอบรมจิตอาสาด้านการแพทย์ ดูแลผู้มาร่วมงานพระราชพิธี ที่บริเวณรอบมณฑลพิธี 21 จุด และประจำพระเมรุมาศจำลอง-ซุ้มดอกไม้จันทน์ 113 จุด เป็นจุดปฐมพยาบาล ทีมกู้ชีพขั้นพื้นฐานและขั้นสูง พร้อมรถพยาบาล ระบบการส่งต่อ-ส่งกลับผู้ป่วย ตลอดงานพระราชพิธี เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2560 จนเสร็จสิ้นพระราชพิธี
ทั้งนี้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทั้งร้อนอบอ้าว แดดแรง ฝนตก ประกอบกับช่วงนี้มีประชาชนเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เป็นจำนวนมาก จึงขอแนะนำให้มีการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ผู้มีโรคประจำตัวควรพกยาประจำตัว ผู้สูงอายุหรือประชาชนที่เดินทางมาคนเดียว ควรเขียนชื่อ สกุล รายละเอียดประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัว โรงพยาบาลที่รักษา เก็บติดตัวไว้ตลอดเวลา พร้อมหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อญาติ เพื่อเป็นข้อมูลในการดูแลหากเป็นลมหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ทั้งนี้ สามารถรับบริการทางการแพทย์ได้ที่โรงพยาบาลสนามกองทัพบกบริเวณสนามหลวงด้านทิศเหนือ (ตรงข้ามเจดีย์ขาว) หน่วยแพทย์ที่หน้าศาลหลักเมือง และในพระบรมมหาราชวัง หรือโทรสายด่วน 1669, 1646 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และการสาธารณสุข ฯ ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรสาธารณประโยชน์ 31แห่ง ได้ร่วมกันปฏิบัติงานดูแลผู้เจ็บป่วยตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 จนถึง 30 กันยายน 2560 ให้บริการประชาชนรวมทั้งสิ้น 3,660,594 คน ส่วนใหญ่ร้อยละ 97 เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และตรวจโรครักษาทั่วไป เช่น ปวดศีรษะ เป็นไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นต้น นำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาล 1,545 คน และตรวจประเมินสุขภาพทางจิตโดยทีมสุขภาพจิต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) รวม 5,425 คน
***************************** 1 ตุลาคม 2560