รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประธาน 16 ราชวิทยาลัย/วิทยาลัยวิชาชีพของประเทศไทย หารือกรอบความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานสาธารณสุข ทั้งการผลิตและพัฒนาบุคลากร การพัฒนาระบบบริการ และการพัฒนางานสาธารณสุขของประเทศ กำหนดลงนามข้อตกลงร่วมกันในเดือนธันวาคม 2560

     
     วันนี้ (4 ตุลาคม 2560) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหารือความร่วมมือกับ 16 ประธานราชวิทยาลัย/วิทยาลัยวิชาชีพของประเทศไทย และให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขและราชวิทยาลัยทั่วประเทศ ได้ร่วมหารือความร่วมมือการดำเนินงานใน 3 ด้าน คือ 1.การผลิตและพัฒนาบุคลากร โดยมีโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นสถาบันหลักในทุกเขตสุขภาพ การสนับสนุนโควต้าการศึกษาของนักเรียนทุนกระทรวงสาธารณสุข และการอบรมในสาขาต่อยอดตามแผนพัฒนาระบบบริการ (Service Plan) ทั้ง 19 สาขาของกระทรวงสาธารณสุข   2.การพัฒนาระบบบริการแก่ประชาชน ได้แก่ สนับสนุนการพัฒนาแนวทางเวชปฏิบัติ (Clinical practice guideline) การพัฒนาระบบ/วางแผนทรัพยากร การสร้างนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา และ 3.ความร่วมมืออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานสาธารณสุขของประเทศ  โดยจะนำข้อสรุปจากการหารือครั้งนี้มาเป็นข้อตกลงความร่วมมือ และลงนามร่วมกันในเดือนธันวาคม 2560 เป็นแผนความร่วมมือระยะ 1 - 3 ปี ขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป  
 
     “16 ราชวิทยาลัยซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของการฝึกอบรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีทั้งองค์ความรู้ การสร้างนวัตกรรม และมีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ ได้เสนอโครงการ/แผนการพัฒนาที่จะร่วมมือกับหน่วยบริการสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น อาทิ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย จะร่วมกันกำจัดมะเร็งปากมดลูกที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของหญิงไทยให้ลดลงหรือหมดไปภายใน 10 ปี และการลดการผ่าตัดคลอด ซึ่งมีสูงถึงร้อยละ 40 ของการคลอด  ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย จะรณรงค์ลดการหักซ้ำของกระดูกสะโพกในผู้สูงอายุ เป็นต้น” ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าว
 
     ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในรูปแบบของคณะกรรมการต่างๆ ซึ่งมีตัวแทนจากราชวิทยาลัยร่วมเป็นคณะกรรมการ เช่น คณะกรรมการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ คณะกรรมการพัฒนาระบบบริการ Service Plan คณะกรรมการการแพทย์ระดับชาติ เป็นต้น กรอบความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีด้านสาธารณสุข ที่ขับเคลื่อนด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก ประกอบด้วย 1.ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคและคุ้มครองผู้บริโภคเป็นเลิศ (PP&P Excellence) 2.บริการเป็นเลิศ (Service Excellence) 3.บุคลากรเป็นเลิศ (People Excellence) และ 4.บริหารเป็นเลิศด้วยธรรมาภิบาล (Governance Excellence) และประเด็นเน้นหนักในปีงบประมาณ 2561 อาทิ การใช้ยาอย่างสมเหตุผล  การพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ  การแก้ปัญหาวัณโรค ระบบการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
 
     ทั้งนี้ 16 ราชวิทยาลัย/วิทยาลัยวิชาชีพแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ราชวิทยาลัยจิตแพทย์ ราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์ ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิก ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ ราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์ ราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์ ราชวิทยาลัยประสาทศัลยแพทย์ ราชวิทยาลัยทันตแพทย์ และวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉิน
 
 ******************************  4 ตุลาคม 2560
 
 


   
   


View 31    04/10/2560   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ