กระทรวงสาธารณสุข สรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ทั้งประเทศ 4,400 ทีม ดูแลประชาชนร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตลอดวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ให้บริการด้านสุขภาพกว่า 2.6 ล้านราย ร้อยละ 90 ปฐมพยาบาลผู้ที่เป็นลม อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ยังคงทีมแพทย์และจิตอาสาดูแลต่อเนื่องดูแลประชาชนที่เข้าชมเมรุมาศที่ท้องสนามหลวง 

      วันนี้(27 ตุลาคม 2560) ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมวิดีโอทางไกลศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Operation Center : OC) ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ว่า ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฝากขอบคุณท่านผู้บริหารและผู้ที่ปฏิบัติงานทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่และช่วยดูแลประชาชนได้เป็นอย่างดียิ่งด้วยน้ำใจและความเข้มแข็ง ทั้งนี้ยังมีประชาชนพักค้างอยู่บริเวณท้องสนามหลวงและถนนราชดำเนินเป็นจำนวนมาก ขอให้จัดทีมแพทย์และจิตอาสาดูแลต่อเนื่องจนกว่าประชาชนจะกลับบ้านทั้งหมด 

ตลอดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์และสาธารณสุขทั้งประเทศกว่า 4,400 ทีม ประกอบด้วย ทีมทางการแพทย์ ทีมด้านสุขภาพจิต ทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วและทีมสนับสนุนอื่นๆ จากโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพเพื่อดูแลประชาชนที่บริเวณท้องสนามหลวง พระเมรุมาศจำลอง และจุดถวายดอกไม้จันทน์ทั่วประเทศ  สามารถให้การดูแลด้านสุขภาพอนามัยประชาชนได้อย่างเรียบร้อย ให้บริการด้านสุขภาพประชาชนกว่า 2.6 ล้านราย

 

โดยในส่วนกลางได้ส่งบุคลากรทำงานร่วมกับทีมแพทย์หลวง ทีมแพทย์จากทุกสังกัดรวมทั้งภาคีเครือข่ายสุขภาพ ใน 21 หน่วยแพทย์โดยรอบท้องสนามหลวงและ 113 หน่วยบริการทางการแพทย์หลัก รวม 3,651 คน ให้บริการประชาชนกว่า 2.4 แสนราย ในส่วนภูมิภาคข้อมูลจาก 13 เขตสุขภาพ มีทีมแพทย์ 3,948 ทีม ประชาชนเข้ารับบริการกว่า 2.4 ล้านราย ร้อยละ 90 ให้การปฐมพยาบาลแจกยาดม แอมโมเนีย ที่เหลือเจ็บป่วยเล็กน้อย ปวดศีรษะ เหนื่อยอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ส่งต่อรักษา 1,000 กว่าราย ด้วยโรคประจำตัวกำเริบ ด้านสุขภาพจิต ได้คัดกรองและปฐมพยาบาลด้านจิตใจประชาชน 1.4 หมื่นราย ส่วนใหญ่เครียดจากความอ่อนเพลีย พักผ่อนน้อย ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชมประชาชนส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนความเศร้าเป็นพลังทำดี ด้วยการร่วมเป็นจิตอาสา

       ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะยังคงทีมแพทย์และจิตอาสาดูแลประชาชนต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาแสดงความอาลัย รวมทั้งประชาชนที่เข้าชมเมรุมาศที่ท้องสนามตลอดเดือนพฤศจิกายน แนะนำประชาชนที่มาร่วมแสดงความอาลัย ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวขอให้ญาติตามมาดูแล หากมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย ขอให้ญาติหรือผู้พบเห็น แจ้งทีมแพทย์หรือทีมจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์ทันที หรือโทรสายด่วน 1669 และสายด่วนสุขภาพจิต 1323

                           **********************************************  27ตุลาคม 2560



   
   


View 23    27/10/2560   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ