กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าสร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สมคุณค่า เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานวิชาชีพอย่างเสมอภาคภายในปี 2564 และพัฒนาการแพทย์ของประเทศสู่มาตรฐานสากล

วันนี้(2 พฤศจิกายน 2560)ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดการสัมมนานโยบายการดำเนินงานกรมการแพทย์ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 เพื่อระดมสมองและรับฟังความคิดเห็นการนำนโยบายและยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ และวิเคราะห์ต่อยอดใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการในแต่ละนโยบายและยุทธศาสตร์แบบมีส่วนร่วม โดยมีผู้บริหาร นักวิชาการในสังกัดจากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 700 คน


ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายปฏิรูปประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า ทันต่อเหตุการณ์และทันโลก โดยด้านสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการวางรากฐานระบบหลักประกันสุขภาพ ให้ครอบคลุมประชากร ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม สร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสาธารณสุข เป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายประชาชนมีอายุคาดเฉลี่ยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ระบบบริการมีบุคลากรสาธารณสุขที่เพียงพอกระจายทั่วประเทศ และสามารถลดรายจ่ายสุขภาพรวมของประเทศภายใต้ระบบบริหารจัดการที่โปร่งใส  นำพาประเทศสู่ Thailand 4.0

สำหรับกรมการแพทย์ในฐานะกรมวิชาการ  มีภารกิจสำคัญในการสร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สมคุณค่า เสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการและบริการทางการแพทย์ในทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายการทำงานที่จะมุ่งพัฒนางานเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานวิชาชีพอย่างเสมอภาคภายในปีพ.ศ. 2564 รวมทั้งพัฒนาการแพทย์ของประเทศไทยสู่มาตรฐานสากล


ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ ได้เร่งรัดพัฒนางานตามยุทธศาสตร์ความเป็นเลิศ  4 ด้าน  รวมถึงการผลักดันระบบบริการตามแผนพัฒนาระบบบริการ( service plan) 15 สาขา เพื่อดูแลประชาชนตามกลุ่มวัย  โดยในปีงบประมาณ 2561ได้มีแผนการพัฒนาดังนี้  1. ระยะ 3 เดือนแรก จะสนับสนุนระบบบริการให้โรงพยาบาลมีทีมป้องกันกระดูกหักซ้ำ(Capture the fracture) การผลักดันระบบบริการผู้ป่วยผ่าตัดแบบวันเดียวกลับบ้านได้(One Day Surgery) พัฒนาการรักษาผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่ เป็นต้น 2.ระยะ 6 เดือนถึง 1 ปี  จะพัฒนาระบบบริการเพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็ง 5 อันดับแรก ให้ได้รับการรักษาภายในระยะเวลาที่กำหนด  พัฒนาโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปให้มีบริการการดูแลระยะกลาง (Intermediate care)พัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุ พัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม การพัฒนาโรงพยาบาล ดิจิตอล (Digital or Smart Hospital) พัฒนาระบบการบำบัด รักษา ฟื้นฟูกลุ่มผู้ติดยาเสพติด พัฒนาระบบการดูแลแบบประคับประคอง(Palliative care) พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน ภายใน 24 ชั่วโมงในโรงพยาบาล และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เป็นต้น  เพื่อให้สถาบัน/โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ เป็นต้นแบบ แหล่งอ้างอิง แหล่งเรียนรู้ของการพัฒนาและผลักดันให้นโยบายลงสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะเกิดประโยชน์แท้จริงต่อประเทศชาติและประชาชน                                                      

                                                                        ******************************* 2 พฤศจิกายน 2560

                                             



   
   


View 29    02/11/2560   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ