“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 124 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข ห่วงประชาชนสภาพอากาศแปรปรวน เตรียมรับมืออากาศหนาวเย็นลงอีกระลอก แนะประชาชนดูแลร่างกายให้อบอุ่น รวมทั้งในพื้นที่มีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหนาแน่นในอากาศ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัว สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกอาคาร
วันนี้ (25 มกราคม 2561) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ว่า นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยสุขภาพประชาชนเนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีอากาศแปรปรวน จะหนาวเย็นอีกครั้ง ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน ส่งผลให้เจ็บป่วยง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ร่างกายมีภูมิต้านทานน้อย ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง
นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อว่าขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองเพื่อป้องกันโรคที่พบบ่อยในช่วงอากาศหนาวเย็นจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น ปอดบวม ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น โดยรักษาความอบอุ่นของร่างกาย สวมเสื้อผ้าหนาๆ และเครื่องกันหนาว รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หากเป็นหวัด ควรนอนพักที่บ้าน ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค มีไข้สูง กินยาลดไข้แล้วไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์รับการรักษาทันที ป้องกันภาวะแทรกซ้อน ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หอบหืด เป็นต้น ควรหมั่นตรวจเช็คค่าความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2560 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 199,391 ราย เสียชีวิต 55 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 15-24 ปี รองลงมาคือ 35-44 ปี และ25-34 ปี ส่วนโรคปอดบวม พบผู้ป่วย 267,741 ราย เสียชีวิต 266 ราย พบมากที่สุดในกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รองลงมาคือ อายุ 55-64 ปี และอายุ 1 ปี
“ในช่วงนี้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักในบางแห่ง ทำให้อากาศมีความชื้นสูง หากมีบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นไข้หวัด ให้นอนพักอย่างเต็มที่ ใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอ จาม เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น หากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ขอให้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กหนาแน่นในอากาศ ขอให้สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานหนักกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ถุงลมโป่งพอง และโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด หากมีอาการผิดปกติให้ไปพบแพทย์ใกล้บ้าน หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422” นายแพทย์โอภาสกล่าว
*************************************** 25 มกราคม 2561