กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ดูแลพุทธศาสนิกชนเดินทางแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถานและวัดไทยในดินแดนพุทธภูมิ พร้อมมอบเครื่องวัดความดันโลหิต ให้ทีมแพทย์ บริการดูแลประชาชน
วันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2561) ที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และประธานคณะกรรมการการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นประธานรับมอบเครื่องวัดความดันโลหิต ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การเภสัชกรรม จำนวน 3 เครื่อง มูลค่า 64,000 บาท และส่งต่อมอบให้กรมการแพทย์ เพื่อให้ทีมแพทย์และพยาบาล ใช้ในการให้บริการดูแลประชาชนผู้แสวงบุญและพระสงฆ์ สามเณร พุทธศาสนิกชนและประชาชนผู้แสวงบุญ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ณ สถานพยาบาลของวัดไทยในประเทศอินเดียและเนปาล
นายแพทย์เจษฎากล่าวว่า ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี พุทธศาสนิกชน และประชาชนที่เดินทางไปแสวงบุญสังเวชนียสถานและวัดไทยในประเทศอินเดียและเนปาล โดยให้กรมการแพทย์ จัดทีมแพทย์และพยาบาลดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลของวัดไทยในประเทศอินเดียและเนปาล ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม ตั้งแต่ปี 2553 อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้โครงการดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลของวัดไทยในดินแดนพุทธภูมิระหว่างเทศกาลแสวงบุญของชาวพุทธ
สำหรับทีมแพทย์ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ มีจำนวน 14 ทีม ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร หมุนเวียนปฏิบัติงานทีมละ 3 สัปดาห์ ใน 3 สถานพยาบาล ได้แก่ 1.สถานพยาบาลกุสินาราคลินิก วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ สาธารณรัฐอินเดีย 2.โรงพยาบาลพระพุทธเจ้า วัดไทยพุทธคลยา สาธารณรัฐอินเดีย และ3.สถานพยาบาลอโรคยาคลินิก วัดไทยลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ผลดำเนินงานปี 2559 พบว่ามีผู้รับบริการทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ชาวอินเดียท้องถิ่นและเนปาล ให้บริการผู้ป่วยทั้งสิ้น 4,899 ราย เป็นคนไทย 2,916 ราย ต่างชาติ 1,983 ราย ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคกล้ามเนื้อและกระดูก และโรคผิวหนังตามลำดับ
ทั้งนี้ การให้บริการรักษาพยาบาลโดยไม่เลือกศาสนาและชั้นวรรณะของทีมแพทย์ จากประเทศไทย สร้างความพึงพอใจให้แก่พระสงฆ์ สามเณร พุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก นอกจากจะเป็นการปฏิบัติงานเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินเดียและเนปาล โดยเฉพาะการพัฒนาสาธารณสุขและคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้ง 3 ประเทศ เสริมศักยภาพด้านการบริการรักษาผู้ป่วยของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์ต่อนานาประเทศ และสนับสนุนการเป็น Medical Hub ของประเทศอีกด้วย
********************************** 16 กุมภาพันธ์ 2561
ภาพโดย....... สมศักดิ์ ดียิ่ง กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์
*********************************