กระทรวงสาธารณสุข ลงนามมอบภารกิจของสถานีอนามัย 22 แห่ง ใน 16 จังหวัดให้ อบต.และเทศบาล ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ย้ำประชาชนมั่นใจคุณภาพการบริการไม่ด้อยกว่าเดิมแน่ เพราะ สธ.ยังคงสนับสนุนด้านวิชาการอย่างใกล้ชิด
เช้าวันนี้ (30 พฤศจิกายน 2550) ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามส่งมอบภารกิจสถานีอนามัยให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระหว่าง นายแพทย์สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานคณะกรรมการกำหนดกลไก กระบวนการ หลักเกณฑ์ และวิธีประเมินความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อรองรับการถ่ายโอนสถานีอนามัย กับ นายกเทศ มนตรี /นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 18 แห่ง ที่จะรับการถ่ายโอน โดยมีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข นายสมพร ใช้บางยาง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ว่าราชการจังหวัด/รองผู้ว่าราชการจังหวัด 16 จังหวัด ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายแพทย์มงคล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 และสอดคล้องตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 แต่เมื่อมี พ.ร.บ.ปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม ฯ และ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ เกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องทบทวนแนวทางการกระจายอำนาจด้านสุขภาพใหม่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งแม้จะทำให้การดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผน แต่ต้องการให้เกิดผลดีต่อประชาชนมากที่สุด หลังถ่ายโอนภารกิจด้านสาธารณสุขให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว
การส่งมอบสถานีอนามัยแก่ อปท. ในวันนี้ นับเป็นก้าวแรกของการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ ซึ่งจะต้องมีการติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนารูปแบบให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าคุณภาพการบริการจะไม่ด้อยไปกว่าเดิม เนื่องจากคนของสาธารณสุขมีความรู้ ความสามารถ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วน อปท.ที่รับโอนสถานีอนามัยไป ก็เป็น อปท.ที่ได้รับรางวัลธรรมาภิบาลดีเด่น และผ่านการประเมินความพร้อมแล้วเช่นกัน ทั้งนี้ สธ.ยังคงให้การสนับสนุนด้านวิชาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพ นายแพทย์มงคลกล่าว
ด้านนายแพทย์สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กล่าวว่า การถ่ายโอนสถานีอนามัยในระยะแรก กำหนดให้ถ่ายโอนเฉพาะ อปท. ที่ได้รับรางวัลธรรมาภิบาลดีเด่น และมีส่วนร่วมในการจัดตั้งกองทุนสุขภาพในชุมชน โดยเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย ร้อยละ 50 ขึ้นไปสมัครใจ ซึ่งพบว่ามีสถานีอนามัย 35 แห่ง ที่สามารถถ่ายโอนไปยัง อปท. 30 แห่งใน 23 จังหวัด โดยจากการดำเนินงานจนถึงขณะนี้ มี อบต. 14 แห่ง และเทศบาล 4 แห่ง ที่ผ่านการประเมินความพร้อมตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และพร้อมรับโอนสถานีอนามัยใน 22 แห่ง ใน 16 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี เพชรบุรี ปทุมธานี บุรีรัมย์ ราชบุรี สมุทรสงคราม นครศรีธรรมราช อุดรธานี และสระแก้ว
สำหรับ 7 จังหวัดที่เหลือ บุคลากรแจ้งภายหลังว่าไม่สมัครใจถ่ายโอน 3 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี นครราชสีมา และกาฬสินธุ์ ส่วนอีก 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ชุมพร และกระบี่ อยู่ระหว่างการรับรองการเลือกตั้งนายก อบต.
ด้านนายสมพร ใช้บางยาง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า การส่งมอบงานของสถานีอนามัยให้กับ อปท. วันนี้ ถือเป็นการนำร่องให้สถานีอนามัยที่เหลือ ประเมินและติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ การดำเนินงานด้านสุขภาพเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ และทักษะในวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุขโดยเฉพาะ ดังนั้น การดำเนินงานด้านสุขภาพในพื้นที่ที่มีการถ่ายโอนภารกิจ ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านนี้ จะเป็นไปในลักษณะแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาร่วมกัน เพื่อให้ได้รูปแบบที่เหมาะสมกับบริบทในแต่ละพื้นที่ โดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในฐานะเป็นผู้กำกับ ดูแลการดำเนินงานของ อปท. จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานในการจัดระบบบริการสุขภาพในทุกๆ ด้าน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายคือ สุขภาวะที่ดีของประชาชน
*************************** 30 พฤศจิกายน 2550
View 12
30/11/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ