รัฐบาล รณรงค์คนไทยงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอด 3 เดือนเข้าพรรษา ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 11,000 ล้านบาท เป็นจุดเริ่มต้น ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว จัดทําโครงการ “ค้นฅน เลิกเหล้า เข้าพรรษา” ค้นหาผู้มีปัญหาจากการดื่มเหล้า ให้เข้าถึงระบบบําบัดรักษา จับมือทุกหน่วยงานจัดกิจกรรม “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ”   

          บ่ายวันนี้ (13 กรกฎาคม 2561) ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล  พลเอก ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมกันแถลงข่าวการจัดกิจกรรมรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2561

          พลเอก ปัฐมพงศ์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้กําหนดให้ “วันเข้าพรรษาของทุกปี” เป็น “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนงดดื่มสุราตลอด 3 เดือนช่วงเข้าพรรษา และนําไปสู่การลด ละ เลิกดื่มสุรา โดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานโอวาทเนื่องในวันงดดื่มสุราแห่งชาติปีนี้ มีใจความสำคัญว่า “การดื่มสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาททั้ง 6 ประการคือ ความเสื่อมทรัพย์ ก่อการทะเลาะวิวาท เป็นบ่อเกิดแห่งโรค เป็นเหตุเสียชื่อเสียง เป็นเหตุไม่รู้จักละอาย เป็นเหตุทอนกำลังปัญญา” ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุ และอาชญากรรม ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ เป็นสาเหตุการเจ็บป่วยกว่า 200 โรค ส่งผลให้เสียชีวิตปีละ 22,672 ราย นอกจากนี้ยังพบว่าครอบครัวที่มีสมาชิกดื่มสุรามีค่าใช้จ่ายสําหรับเครื่องดื่มประเภทนี้ถึงร้อยละ 6 - 8 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด และรายงานศูนย์วิจัยปัญหาสุราร่วมกับศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาสังคมและธุรกิจ พบว่า การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษาปี 60สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าหมื่นล้านบาท

          พลเอก ปัฐมพงศ์ กล่าวต่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความกังวลต่อสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชาชนไทย ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนและสตรีเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย และมอบคําขวัญเนื่องในวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ปีนี้ว่า “ลดละเลิกสุรา พาครอบครัวเป็นสุข” หากครอบครัวเข้มแข็ง อยู่ดี กินดี มีความสุข เยาวชนก็จะไม่ไปพึ่งพาการดื่มสุราหรือยาเสพติดชนิดอื่น อัตราการเพิ่มขึ้นของนักดื่มหน้าใหม่จะลดลง

 

          ด้านนายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ใช้มาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางสังคม เพื่อลดปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจแอลกอฮอล์ ในช่วงเข้าพรรษาได้จัดทําโครงการ “ค้นฅน เลิกเหล้า เข้าพรรษา” ค้นหาประชาชนผู้มีปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มารับบริการในสถานบริการ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการและเข้าสู่ระบบบําบัดรักษา ให้สามารถ ลด ละ เลิก ดื่ม และลดอันตรายจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้

          พร้อมกันนี้ ได้จัดกิจกรรม วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจําปี 2561 ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดงานฯ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ กรุงเทพมหานคร เพื่อเผยแพร่ความรู้ สร้างกระแส รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ เรื่องโทษ พิษภัย ผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ให้สังคมตระหนักถึงอันตรายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระตุ้นให้ประชาชน ลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งขอความร่วมมือหน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรม “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” ในช่วงเข้าพรรษา ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกคน งดดื่มสุราในช่วง เข้าพรรษา เพื่อเป็นจุดเริ่มต้น ของการ ลด ละ เลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

          ด้านนายสงกรานต์กล่าวว่า สําหรับงานรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ปัจจุบันมีคนไทยเข้าร่วมโครงการ เพิ่มขึ้น ดังนั้น ช่วงงดเหล้าเข้าพรรษาถือการสร้างบุญในปีนี้ เครือข่ายงดเหล้าร่วมกับ สสส. สนับสนุนเครือข่ายองค์กร ต่าง ๆ เน้นรณรงค์เปลี่ยนแปลงค่านิยมไม่เลี้ยงเหล้า ไม่ดื่ม ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในเทศกาลงานบุญประเพณี ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ บังคับใช้กฎหมายตาม พรบ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ใช้แนวทางในการชวน ช่วย เชียร์ให้งดเหล้าเข้าพรรษาและงดตลอดชีวิต โดยมีผู้นําชุมชนร่วมรณรงค์ ขณะนี้ มีอําเภอเข้าร่วมการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2561 จํานวน 155 อําเภอ

 ***************************    13 กรกฎาคม 2561



   
   


View 1253    13/07/2561   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ