กระทรวงสาธารณสุข หนุนหญิงไทยทุกคนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนแรกของชีวิต ด้วยโครงการมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกของชีวิต ช่วยป้องกันการติดเชื้อในทารกแรกเกิด ลดอัตราการเสียชีวิต พัฒนาระดับสติปัญญา เผยปัจจุบันมีเพียงร้อยละ 23 ตั้งเป้าเพิ่มให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2568

        แพทย์หญิงอัมพร  เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า องค์การอนามัยโลก และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ แนะนำให้เด็กควรได้กินนมแม่อย่างเดียวติดต่อกันตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน โดยไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่ย่อยง่ายและถูกสร้างมาให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพร่างกายของทารก ช่วยป้องกันการติดเชื้อในทารกแรกเกิด ลดอัตราการเสียชีวิต พัฒนาระดับสติปัญญา ปัจจุบันทั่วโลกมีเด็กได้กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนเพียงร้อยละ 40 ส่วนประเทศไทยตัวเลขอยู่ที่ร้อยละ 23 สาเหตุสำคัญที่ทำให้แม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้มีหลายประการ ได้แก่ แม่ต้องกลับไปทำงานก่อน 6 เดือน แม่เชื่อว่าน้ำนมไม่พอ หรือแม่เข้าใจผิดคิดว่านมแม่มีสารอาหารไม่เพียงพอ

         ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับ 4 กระทรวง พัฒนาศักยภาพเด็กไทย สร้างคนไทย 4.0 มีสุขภาพดี สติปัญญาดี แข็งแรง มีทักษะสูง และมีจิตใจที่งดงาม ดูแลตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ถึงคลอด และเติบโตอย่างมีคุณภาพ  ด้วยโครงการมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกแห่งชีวิต โดยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นับเป็นช่วงที่ 2 ของ 1,000 วันแรก  นับตั้งแต่แรกเกิด-6 เดือน เป็นช่วงที่ร่างกายและสมองของเด็กเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การได้รับนมแม่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกของชีวิต การโอบกอดและเล่นกับลูกส่งผลให้ลูกเจริญเติบโตดี มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและอารมณ์ดี  ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนของชีวิต ให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2568

       ทั้งนี้ ในการที่จะให้แม่ประสบความสำเร็จในการลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนของชีวิตนั้น ต้องมีการเตรียมพร้อมแม่ตั้งแต่ในระยะตั้งครรภ์ และระยะหลังคลอด ได้แก่ 1.ให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของนมแม่ในแง่คุณค่าทางอาหาร การเจริญเติบโต การพัฒนาทางสมองและพฤติกรรม การป้องกันการติดเชื้อของทารก ทำให้รูปร่างที่เปลี่ยนไประหว่างตั้งครรภ์ของแม่กลับมาสวยเหมือนเดิม ป้องกันการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังประหยัด และเป็นการสร้างความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูก  2.ความรู้เรื่องขั้นตอนในการให้นมแม่ โดยเริ่มให้ลูกดูดนมโดยเร็วตั้งแต่หลังคลอดภายใน 30 นาที เพื่อให้น้ำนมออกเร็ว การให้ลูกดูดนมบ่อยๆในวันแรกหลังคลอด โดยภายใน 24 ชั่วโมงแรก ลูกควรดูดนม 8-12 ครั้ง และต้องให้ลูกดูดนมให้ถูกวิธี คือให้ลูกอมหัวนมให้ถึงลานนม สามารถป้องกันการเกิดนมคัดหรือหัวนมแตกได้

       3.ความรู้เรื่องอาหารที่มีประโยชน์ต่อแม่ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมลูก โดยควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอ 4.ให้ความรู้ความเข้าใจกับบุคคลในครอบครัว เช่นสามี เพื่อให้บุคคลที่ใกล้ชิดกับหญิงตั้งครรภ์เห็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พร้อมให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆและเป็นกำลังใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่  5.ตรวจหาความผิดปกติของเต้านม หัวนม และลานหัวนม สิ่งผิดปกติที่พบบ่อยคือ หัวนมสั้น (short nipple) หัวนมบอด ต้องได้รับคำแนะนำและแก้ไข  เพื่อให้แม่พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์และวิธีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ถูกต้อง และสร้างความมั่นใจให้กับแม่ว่าจะสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ 

********************************   12 สิงหาคม 2561



   
   


View 610    12/08/2561   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ