กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชน หน้าฝน อากาศชื้น พบป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ปอดบวมสูง  กำชับสำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันโรค เน้นลดจำนวนผู้ป่วย
ลดภาวะแทรกซ้อนอันตราย

         นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มีฝนตกชุกในหลายพื้นที่  อากาศมีความชื้นสูงเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เป็นสาเหตุเกิดโรคหลายชนิด ข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา โรคที่พบมากสุดในช่วงฤดูฝนช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน 2560 อันดับ 1 ได้แก่
โรคไข้หวัดใหญ่พบผู้ป่วย 121,283 คน เสียชีวิต 15 ราย รองลงมาคือปอดบวม 100,340 คน เสียชีวิต 118 ราย ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันโรค ลดจำนวนผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด รวมทั้งเข้มข้นการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรค เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงเสียชีวิต  

      นายแพทย์เจษฎากล่าวต่อว่า รอบ 3 เดือนของฤดูฝนปี 2561  นี้ พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่  41,294  คน เสียชีวิต 7 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ มีโรคเรื้อรังประจำตัว ส่วนโรคปอดบวมพบผู้ป่วย 61,908  คน เสียชีวิต 37 ราย โดยอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยจะมีไข้ ไอ น้ำมูก บางคนมีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง เป็นอยู่ประมาณ 3-5 วัน ส่วนโรคปอดบวม เป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง เกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส อาจเป็นโรคแทรกซ้อนหลังจากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ประมาณ 3 วัน โดยผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ เหนื่อยหอบง่าย และอาจมีเสมหะ หรือมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย
ควรให้ความสนใจในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้ หรือตัวอุ่นๆ และมีอาการซึมลง  ส่วนในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี จะมีไข้สูง ซึม ไม่ดื่มน้ำหรือนม หายใจหอบเร็วหรือหายใจมีเสียงดังหวีดหรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม  หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยลดอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิตได้

     อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถป้องกันการเจ็บป่วยง่ายๆ ด้วยมาตรการ ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด คือ ปิดปากจมูกเมื่อป่วย ไอ จาม สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนรับประทานอาหาร เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วย
มีไข้ ไอ จาม หรืออยู่ในสถานที่คนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก ให้หยุดงาน หยุดเรียน หยุดกิจกรรมกับผู้อื่นเมื่อป่วย เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น  นอกจากนี้ ต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น รับประทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ ครบ 5 หมู่ หากประชาชนเจ็บป่วยฉุกเฉินโทรขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 ***********************************************  1 กันยายน 2561

 

 



   
   


View 1695    01/09/2561   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ