“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 124 View
- อ่านต่อ
นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Roundtable) หัวข้อการพัฒนาการเข้าถึงยาจำเป็น ทั้งในและนอกภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก (Improving Access to Essential Medicines in the Region and Beyond) ซึ่งเป็นวาระสำคัญของการประชุมคณะกรรมการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก สมัยที่ 71 (Seventy - First Session of the WHO Regional Committee for South-East Asia : RC71) โดยได้กล่าวถึงประเด็นการจัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติของประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และนำรายการยาที่ระบุในบัญชียาหลักแห่งชาติมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ด้านยาของระบบประกันสุขภาพของภาครัฐ ทั้ง 3 ระบบ คือ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และระบบประกันสังคม มีการนำนโยบายและมาตรการหลายประการมาใช้เพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาที่จำเป็นโดยไม่มีข้อจำกัดทางการเงิน และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยา และสร้างความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณของประเทศด้วย
นายแพทย์ธวัชกล่าวต่อว่า ประเทศไทยได้ให้ข้อเสนอแนะต่อที่ประชุม 4 ประเด็น ได้แก่ 1.การนำเสนอประสบการณ์ของภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออกให้เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลกว่าภูมิภาคเราสามารถร่วมกันพัฒนาการเข้าถึงยาที่จำเป็น ด้วยการเพิ่มศักยภาพการผลิตยาที่มีคุณภาพ และการจัดการให้มีการแข่งขันทางยาด้วยชื่อยาสามัญ 2.การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารด้านยาของภูมิภาคให้มีความโปร่งใส รวมทั้งการจัดทำเครือข่ายของภูมิภาค 3.การใช้มาตรการผ่อนปรน (TRIPS flexibilities) เช่น การบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (Compulsory Licensing) ที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและ4.การสนับสนุนการจัดซื้อยารวมในระดับภูมิภาค เช่น ยากำพร้า หรือยาที่ใช้น้อย ยาต้านพิษและเซรุ่มแก้พิษงู
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ผนวกข้อเสนอแนะของไทยในเอกสารปฏิญญาของรัฐมนตรีว่าด้วยการเพิ่มการเข้าถึงเวชภัณฑ์ที่จำเป็นในภูมิภาคและนอกเหนือภูมิภาค (Ministerial Declaration on “Improving access to essential medical products in the Region and beyond) โดยที่ประชุมมีมติให้การรับรองปฏิญญาดังกล่าว
************************************ 5 กันยายน 2561