อธิบดีกรมควบคุมโรค สั่งสำนักงานควบคุมโรคทั่วประเทศ จับตาการระบาดของโรคมือเท้าปากอย่างใกล้ชิด แนะพ่อแม่ผู้ปกครอง ครู พี่เลี้ยงเด็ก หากสงสัยว่าเด็กป่วยโรคนี้ ต้องให้หยุดเรียนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และพาไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าควบคุมโรคทันที
นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยกรณีที่มีข่าวการระบาดของโรคมือเท้าปากในสถานรับเลี้ยงเด็กอ่อน และโรงเรียนอนุบาลในจังหวัดเชียงราย ลำปางและสิงห์บุรี ทำให้ต้องมีการปิดโรงเรียนเป็นการชั่วคราว ว่า ได้กำชับสำนักงานควบคุมโรคทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ ให้จับตาเฝ้าระวังโรคมือเท้าปากอย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรค อย่างไรก็ตาม มาตรการสำคัญที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้ดีที่สุดคือ การแยกผู้ป่วยออกจากเด็กปกติ ดังนั้น หากพ่อแม่ผู้ปกครองพบว่าเด็กมีไข้สูง มีตุ่มน้ำใสๆ ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้าหรือในปาก ขอให้สงสัยโรคมือเท้าปาก ห้ามให้เด็กไปโรงเรียนเด็ดขาด เพราะจะไปแพร่เชื้อให้เพื่อนๆ ได้ และให้พาไปพบแพทย์ ส่วนครูหรือพี่เลี้ยงเด็ก หากสังเกตเห็นเด็กมีอาการน่าสงสัยว่าจะเป็นโรคมือเท้าปาก ขอให้แจ้งผู้ปกครองรับเด็กกลับ และให้หยุดเรียนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาสอบสวนควบคุมโรคทันที สำหรับเด็กเล็ก ควรหลีกเลี่ยงการนำไปในที่สาธารณะที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ เช่น สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด สระว่ายน้ำ เพราะจะเสี่ยงติดโรคได้ง่าย
นายแพทย์ธวัช กล่าวต่อว่า โรคมือเท้าปาก เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม เอ็นเทอโรไวรัส (Enteroviruses) พบรายงานการเกิดทั่วโลก มักเป็นกับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี โดยเฉพาะกลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี จึงมักมีรายงานการระบาดของโรคบ่อยๆ ตามสถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนอนุบาล ติดต่อโดยการกินเชื้อผ่านเข้าปากโดยตรงจากมือที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระของผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ หรือน้ำในตุ่มพองหรือแผลของผู้ป่วย และโดยการหายใจเอาเชื้อที่แพร่กระจายจากละอองฝอยของการไอ จาม ของผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อเข้าไป อาการสำคัญคือ มีไข้ร่วมกับมีตุ่มใสเล็กๆ ที่ผิวหนังบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงและหายได้เอง ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ แก้ปวด ยาทาแผลในปาก เป็นต้น มีเพียงส่วนน้อยที่อาจมีอาการทางสมองร่วมด้วย ทำให้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต และต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคมือเท้าปากในประเทศไทย ในปี 2550 มีรายงานผู้ป่วยทั้งหมด 14,255 ราย อยู่ในภาคกลาง 7,144 ราย ภาคเหนือ 3,882 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2,020 ราย และภาคใต้ 1,209 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุดถึง 3,995 ราย สำหรับในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-25 มกราคม 2551 มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 949 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า โดยจังหวัดเชียงรายพบผู้ป่วยสูงสุด 177 ราย รองลงมาเป็น ลำปาง 123 ราย นครสวรรค์ 65 ราย ขอนแก่น 47 ราย พิษณุโลกและพะเยา จังหวัดละ 46 ราย
************************************* มกราคม 2551
View 11
25/01/2551
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ