กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ระวังป่วยด้วยโรคปอดบวม แนะหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีคนแออัด ล้างมือบ่อย ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ หากป่วยควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ

          นายแพทย์สุขุม  กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงฤดูฝน สภาพอากาศที่ชื้นเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ ซึ่งมีภูมิต้านทานน้อยกว่าคนทั่วไป อาจป่วยได้ง่าย ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์โรคที่พบบ่อย เช่นไข้หวัดใหญ่ และโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ ซึ่งมีความรุนแรงสูง หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันท่วงที อาจเสียชีวิตได้ โดยข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 21 พฤษภาคม 2562 พบผู้ป่วยโรคปอดบวมแล้ว 96,084 ราย เสียชีวิต 79 ราย กลุ่มที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เชียงราย อุบลราชธานี ขอนแก่น น่าน ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

          นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคปอดบวม เกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส มักเป็นโรคแทรกซ้อนหลังป่วยไข้หวัดประมาณ 3 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ มีเสมหะ น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีเขียวข้น เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบง่าย เด็กเล็กและผู้สูงอายุอาจจะมีอาการเหล่านี้ไม่ชัดเจนหรือไม่ครบทุกอย่าง จึงควรให้ความสนใจมากกว่าปกติ เช่น ในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้ หรือตัวอุ่นๆ และอาการซึมลง หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยลดอาการรุนแรงได้

           การป้องกันตนเองจากโรคปอดบวมคือ หลีกเลี่ยงการรับเชื้อ โดยไม่อยู่ในที่แออัด มีผู้คนจำนวนมากอยู่รวมกัน หรือมีมลพิษจากควันบุหรี่ ควันไฟ และหมอกควันที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง เช่น เย็นจัดหรือชื้นจัด หากท่านหรือบุคคลใกล้ชิดโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ขอให้พบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้ ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

 

**********************************  28 พฤษภาคม 2562

 



   
   


View 1629    28/05/2562   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ