ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการทำดีเพื่อพ่อสานต่อสุขภาพผู้สูงวัย มอบแว่นสายตาแก่ผู้ด้อยโอกาส เป็นของขวัญให้ชาวจังหวัดอุบลราชธานี 30,000 คนฟรี เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผยวัยแรงงาน ร้อยละ 30 สายตาผิดปกติ วัยสูงอายุเป็นตาต้อกระจกปีละ 60,000 คน เหตุขาดการถนอมสายตา จากดูทีวี เล่นเกม การใช้คอมพิวเตอร์ไม่ถูกต้อง รวมทั้งคนที่ชอบเปิดไฟนอน อาจทำให้สายตาเสื่อมเร็วขึ้น
วันนี้ (31 มกราคม 2551) นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการทำดีเพื่อพ่อสานต่อสุขภาพผู้สูงวัย จัดโดยจังหวัดอุบลราชธานี มูลนิธิ Luxottica มูลนิธิไลออนส์ในประเทศไทยและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีทีมจักษุแพทย์และอาสาสมัครจากสหรัฐอเมริกาจำนวน 40 คน พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครกว่า 300 คน ให้บริการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นตาให้ชาวจังหวัดอุบลราชธานีที่มีความผิดปกติทางสายตาฟรี ระหว่างวันที่ 30 มกราคม-8 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ ศาลาประชาวาริน อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชากรโลก 6,000 ล้านคน คาดว่ามีผู้ที่มีภาวะสายตาผิดปกติ ได้แก่ สายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาวตั้งแต่กำเนิด ประมาณร้อยละ 5-15 แตกต่างกันตามเชื้อชาติ โดยชาวเอเชีย พบว่ามีความผิดปกติมากที่สุด การมีสายตาผิดปกติไม่ถือว่าเป็นโรค แต่อาจรบกวนการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับไทย ผลสำรวจสุขภาพสายตาของคนไทย โดยวิธีตรวจวัดสายตา ในกลุ่มวัยแรงงาน ซึ่งมีประมาณ 45 ล้านคน พบว่าร้อยละ 30 มีสายตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้างผิดปกติ ส่วนในกลุ่มผู้สูงอายุมีปัญหาโรคตาต้อกระจกรายใหม่ปีละประมาณ 60,000 คน จึงต้องเร่งให้ความรู้ประชาชนในการดูแลถนอมดวงตา ป้องกันอันตรายให้ดวงตา การตรวจตา และการเลือกใช้เลนส์แว่นตาถูกต้องและเหมาะสม
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า แต่ละวัน คนเราจะเคลื่อนไหวนัยน์ตาประมาณ 30,000 ครั้ง การถนอมดวงตาจะต้องไม่ใช้สายตานานเกินไป ควรพักสายตาบ่อยๆ รวมทั้งเวลานอน ควรปิดไฟนอน เพื่อให้ดวงตาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ด้วย ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาสายตา หรือสายตาเสื่อมเร็วขึ้น ที่สำคัญคือการดูทีวี การใช้คอมพิวเตอร์ จึงควรปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อลดการทำลายสายตา โดยการนั่งดูทีวี ควรดูในห้องที่มีแสงสว่างพอควร และควรนั่งห่างจากทีวีประมาณ 5 เท่าของขนาดจอทีวี เช่น ขนาดจอทีวี 14 นิ้ว ควรนั่งห่างประมาณ 6 ฟุต
ส่วนการใช้คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ควรตั้งสูงประมาณ 75 เซนติเมตรจากพื้นห้อง จอภาพอยู่ห่างจากตาประมาณ 50 เซนติเมตร และปรับเก้าอี้ให้ตาอยู่สูงจากพื้นห้อง ประมาณ 1 เมตร ควรพักสายตาทุก 2 ชั่วโมง ครั้งละประมาณ 15 นาที โดยให้มองออกไปไกลๆ หรือหลับตาเฉยๆ หากเป็นไปได้ควรทำงานกับจอภาพวันละ ไม่เกิน 4 ชั่วโมง หากมีอาการผิดปกติ ได้แก่ ปวดเมื่อยตา แสบตา เคืองตา หรือปวดหัวอย่างรุนแรง วิงเวียน อาเจียน ต้องพักสายตาทันที แนะนำให้ตรวจวัดสายตาและแก้ไขความผิดปกติด้วยแว่นตา นอกจากนี้ ควรจัดความเข้มของแสงหน้าจอให้พอเหมาะ ขจัดแสงจ้าซึ่งอาจเป็นแสงไฟหรือแสงแดดที่ลอดผ่านช่องประตู หน้าต่างเข้ามารวมทั้งแสงไฟที่กระพริบออกไป
นอกจากนี้ ควรสวมแว่นตาทุกครั้งที่เจอแสงแดด สวมแว่นว่ายน้ำขณะว่ายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำยาคลอรีน หรือเศษผงเข้าตา ควรออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินเอ ในตับ ไข่แดง เนย น้ำมันตับปลา พืชใบเขียว พืชที่มีสีเหลือง และวิตามินบี ในข้าวซ้อมมือ เนื้อหมู นม ตับ ไข่ ถั่ว ผักใบเขียว เป็นต้น จะช่วยในการถนอมสายตาได้
ด้านนายแพทย์วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ บางส่วนอยู่ติดชายแดนกับประเทศลาว ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้าง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ออกค้นหาผู้ที่มีความผิดปกติทางสายตาในหมู่บ้านทั่วจังหวัด พบมีผู้มีความผิดปกติทางสายตาจำนวน 61,788 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ทุกรายจะได้รับการตรวจโดยละเอียดจากจักษุแพทย์ และได้รับบริการแก้ไขให้ฟรี เช่น ตัดแว่นตา ส่วนผู้ที่ต้องแก้ไขโดยการรักษาพิเศษอื่นๆ ก็จะส่งรักษาต่อในโรงพยาบาลต่อไป
**************************** 31 มกราคม 2551
View 12
31/01/2551
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ