สธ. เชิญชวนภาคเอกชน ร่วมบริจาคเครื่องฟอกไตเทียม ยืดอายุผู้ป่วยไตวายนับแสนราย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบเครื่องฟอกไตเทียมจากภาคเอกชน 1 เครื่องมูลค่า 470,000 บาท เพื่อจัดส่งให้โรงพยาบาลขาดแคลน โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขขาดแคลนเครื่องฟอกไตเทียม ทั่วประเทศมีเพียง 1,400 เครื่อง แต่มีผู้ป่วยใช้บริการนับแสนราย บางรายต้องรอคิวนาน 2-6 เดือน วันนี้ (24 เมษายน 2551) เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบเครื่องฟอกไตเทียม 1 เครื่อง มูลค่า 470,000 บาท จากนางจรรยา สว่างจิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) นายไชยา ให้สัมภาษณ์ว่า การบริจาคเครื่องฟอกไตเทียม นับเป็นมหากุศลยิ่ง ที่จะช่วยชะลอชีวิตผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย กระทรวงสาธารณสุข จะนำเครื่องนี้ไปให้โรงพยาบาลที่จำเป็นต้องใช้อย่างเร่งด่วนก่อน เนื่องจากขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องฟอกไตสำหรับให้บริการผู้ป่วยโรคไต เพราะผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ต้องรักษาโดยการล้างไตเพื่อลดการสะสมของเสียในร่างกายซึ่งเป็นที่นิยมกันมากขณะนี้คือการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ฟอกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 20,000-30,000 บาทต่อคน โดยทั่วประเทศมีเครื่องฟอกไตเทียม 1,400 เครื่อง ไม่เพียงพอกับผู้ป่วยโรคไตวาย ซึ่งร้อยละ 88 ใช้บริการเครื่องฟอกไตเทียม ทำให้ต้องรอคิวนาน 2-6 เดือน บางรายเสียชีวิตก่อนถึงคิว โดยเฉพาะผู้ป่วยต่างจังหวัด หากมีเครื่องฟอกไตเทียมมากขึ้น ผู้ป่วยก็จะได้รับบริการเร็วขึ้น จึงขอเชิญชวนภาคเอกชนหรือผู้ที่มีจิตศรัทธา ให้ร่วมกันบริจาคเครื่องฟอกไตเทียม เพื่อผู้ป่วยโรคไตวาย สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-2028 ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลสาธารณสุขในปี 2547 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคไต จำนวน 108,215 ราย เป็นผู้ป่วยไตวายเฉียบพลันจำนวน 16,277 รายหรือประมาณร้อยละ 15 ที่เหลืออีก 91,938 ราย เป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังหรือประมาณร้อยละ 85 โดยมีผู้ป่วยไตวายรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 7,871 ราย หรือคิดเป็น 125 รายต่อประชากรล้านคน และจากข้อมูลสมาคมโรคไตปี 2548 ทั่วประเทศมีศูนย์รักษาโรคไต 350 แห่ง มีสถานพยาบาลเอกชนที่ผู้ป่วยสามารถเบิกค่าใช้จ่ายฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียมทั้งหมด 178 แห่ง และมีคลินิกไตเทียมทั่วประเทศ 12 แห่ง อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคไตวายเรื้อรังในขณะนี้ เกิดมาจากโรคเบาหวาน ไตอักเสบเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง และนิ่วในไตถึงร้อยละ 75 ดังนั้นประชาชนควรปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคดังกล่าว โดยการออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 วันๆละ 30 นาที ลดการกินอาหารรสเค็มจัด หวานจัด และลดหรือเลิกสูบบุหรี่ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการแล้ว ต้องพบแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะลดความเสี่ยงการเกิดโรคไตวายเรื้อรังได้ถึงร้อยละ 20-50 นายแพทย์ปราชญ์กล่าว ****************************** 24 เมษายน 2551