สธ. สอบสวนโรคกรณี เด็กนักเรียนระยอง 2 แห่ง ป่วยเป็นอุจจาระร่วงหลังร่วมงานกีฬาสี ส่วนใหญ่อาการป่วยไม่รุนแรง
- สำนักสารนิเทศ
- 765 View
- อ่านต่อ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอเวลา 7 วัน ควบคุมโรคโควิด 19ในพื้นที่ จ.ระยอง ส่งรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน และชุดตรวจ Rapid Test เพื่อคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อให้มากที่สุด พร้อมส่งกรมอนามัย ล้างเมืองระยองให้สะอาด ก่อนเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังปีใหม่ 2564
วันนี้ (28 ธันวาคม 2563) ที่ ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย นายนพดล ตั้งทรงเจริญ ประธานกรรมการหอการค้า จ.ระยอง และนายวีรยุทธ อนุจิตรอนันต์ ประธานกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หอการค้า จ.ระยอง (YEC) ร่วมกันแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด 19 และการดำเนินการควบคุมป้องกันโรค จ.ระยอง โดยดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ จ.ระยอง มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 56 คน และอยู่ระหว่างรอผลอีกจำนวนหนึ่งรวมแล้วประมาณ 92 คน แนวโน้มของผู้ติดเชื้อลดลง โดยขอเวลา 7 วัน ประเมินสถานการณ์ และค้นหาสอบสวนเพื่อให้พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ธันวาคม 2563) จะระดมรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน เชิงรุกค้นหากลุ่มเสี่ยงครอบคลุมในทุกพื้นที่ โดยใช้ชุดตรวจ Rapid Test ใช้คัดกรองผู้ติดเชื้อจำนวนมากเบื้องต้นได้ในระยะเวลาอันสั้น ก่อนนำไปตรวจหาเชื้อด้วยวิธีการ RT-PCR เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจน
“เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทั้งในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ในสัปดาห์หน้าได้มอบหมายให้กรมอนามัย ลงพื้นที่ทำความสะอาดล้างตัวเมืองระยองให้ปลอดภัย นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้ออกมาตรการเร่งด่วน สั่งปิดสถานที่เสี่ยงสำคัญ รวมถึงกวาดล้างแหล่งอบายมุข เนื่องจากเป็นที่แออัด เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อที่สำคัญ เพื่อเตรียมเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากาก 100% ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง งดการไปในสถานที่มีคนหนาแน่น มั่นใจจะควบคุมโรคได้” ดร.สาธิต กล่าวว่า
ด้านนายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โครงการล้างเมืองระยองให้สะอาดใน 7 วัน กรมอนามัยจะร่วมมือกับผู้ประกอบการดำเนินการใน 9 สถานที่ ได้แก่ ร้านอาหาร ศาสนสถาน คอนโด ห้างสรรพสินค้า โรงมหรสพ ฟิตเนส โรงเรียน ตลาด/ตลาดนัด และศูนย์เด็กเล็ก เพื่อให้แหล่งแพร่เชื้อไม่มีในสถานประกอบการ โดยจะเริ่มดำเนินการวันที่ 29 ธันวาคม 2563 เป็นวันแรก เริ่มที่ตลาดก่อน ขอให้สถานประกอบการต่างๆ เข้ามาลงทะเบียนและประเมินตนเองช่วงระหว่างปิดทำความสะอาดนี้ผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID
ทั้งนี้ จากการสำรวจระหว่างวันที่ 21-25 ธันวาคม ชาวระยองสวมหน้ากากร้อยละ 93.68 มีพื้นที่ที่สวมหน้ากากน้อย ได้แก่ สวนสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิง ฟิตเนส และโรงแรม โดยสถานการณ์การระบาดครั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ควบคุมโควิด 19 ได้เร็ว คือ ความร่วมมือ หากไปสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด 19 หรือมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะมาจากกิจกรรมที่ถูกกฎหมายหรือไม่ ขอให้แจ้งหน่วยงานสาธารณสุข ยิ่งปิดประวัติจะทำให้ยิ่งแพร่เชื้อ ในส่วนสถานประกอบการ ขอให้ทำตามมาตรการป้องกัน คัดกรอง ควบคุมให้ผู้มารับบริการสวมหน้ากาก ส่วนประชาชน ใช้แอปพลิเคชันหมอชนะ ในการคัดกรองประเมินตนเองเบื้องต้น เหมือนเป็น "โควิดพาสปอร์ต" และตรวจหาเชื้อเมื่อมีอาการ จะช่วยหยุดยั้งโรคได้เร็ว
ด้านนายนพดล ตั้งทรงเจริญ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดระยอง และนายวีรยุทธ อนุจิตรอนันต์ ประธานกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หอการค้าจังหวัดระยอง (YEC) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ระยอง ทำให้เศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นตัวกลับมาวิกฤตอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่จังหวัดประกาศ ปิดสถานบริการเกือบทั้งหมด เพื่อเคลียร์ให้จังหวัดปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่พร้อมจะเดินทางเข้ามา ซึ่งต้องขอขอบคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และทีมสาธารณสุขที่จัดโครงการดีๆ เรียกความเชื่อมั่น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ การทำให้ยอดของผู้ติดเชื้อโควิด 19 ลดลงได้เร็วที่สุดเท่าไหร่ จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
เบื้องต้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อน และลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการภาคธุรกิจในจังหวัดได้ร่วมมือกันจัดโครงการรักระยอง กอดระยอง ช่วยเหลือเยียวยา โดยให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ ช่วยเหลือ ผู้ประกอบการรายเล็ก อาทิ การลดค่าเช่า เป็นต้น และให้ภาคอุตสาหกรรมในจังหวัด ช่วยกันสนับสนุนจัดซื้อจัดจ้างสินค้าของผู้ประกอบการในพื้นที่ และจะนำโครงการตู้ปันสุขกลับมาใช้ในจังหวัดอีกครั้ง และขอฝากให้ภาครัฐมีมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการพักชำระหนี้ และนำโครงการต่างๆ ดี เช่น โครงการคนละครึ่ง มาช่วยผู้ประกอบภาคธุรกิจต่างๆ ด้วย
*********************************** 28 ธันวาคม 2563