กระทรวงสาธารณสุข พบสิงห์อมควันจำนวนมาก ไม่รู้ว่ามีกฎหมายบุหรี่ ฉบับที่ 17 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ยังฝ่าฝืนสูบบุหรี่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกประเภท ซึ่งเป็นเขตปลอดบุหรี่ โดยพบมากที่สุดร้อยละ 50 สูบที่สถานีรถไฟ รองลงมาคือที่สถานีขนส่ง เตือนจากนี้ไป หากพบแจ้งตำรวจและมีโทษปรับทันที 2,000 บาท นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2549 กำหนดพื้นที่สาธารณะให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ เพื่อคุ้มครองสุขภาพของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งออกประกาศเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยพื้นที่สาธารณะที่กำหนดเป็นเขตปลอดบุหรี่ได้แก่ ยานพาหนะโดยสารประจำทาง ยานพาหนะโดยสารรับจ้าง ป้ายรถเมล์ สถานีขนส่งทุกประเภท ทั้งท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ ท่าเรือโดยสาร และสถานีขนส่ง ซึ่งเป็นจุดรวมของประชาชนใช้บริการในการเดินทางเข้า-ออกจำนวนมากทุกวัน ต้องจัดเขตสูบบุหรี่ให้เหมาะสม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2549 เป็นต้นมานั้น นายแพทย์ปราชญ์กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้รับการร้องเรียนจากประชาชนแจ้งว่ามีประชาชนจำนวนมากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยได้รับเรื่องร้องเรียนจากเขตกทม.และปริมณฑล ทั้งหมด 51 ครั้ง จุดที่มีการฝ่าฝืนสูงที่สุดได้แก่สถานีรถไฟร้อยละ 50 จำนวน 26 ครั้ง ในจำนวนนี้สูบบนโบกี้รถไฟ 7 ครั้ง รองลงมาคือที่สถานีขนส่ง พบร้อยละ 30 จำนวน 15 ครั้ง โดยมีการสูบบนรถโดยสาร 6 ครั้ง และพบที่ขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือขสมก.ร้อยละ 15 จำนวน 7 ครั้ง น้อยที่สุดที่ท่าอากาศยานได้รับร้องเรียน 2 ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่รู้เรื่องกฎหมาย หรือรู้แต่ตั้งใจฝ่าฝืน กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เอาจริงในเรื่องนี้แล้ว ต่อไปนี้หากพบใครฝ่าฝืนสูบ จะมีโทษปรับทันที 2,000 บาท โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น หากจะสูบ ขอให้สูบในบริเวณที่จัดให้สูบเท่านั้น โดยดูที่เครื่องหมาย จะแสดงด้วยอักษรสีฟ้า เขียนว่า เขตสูบบุหรี่ ทางด้านนายแพทย์เสรี หงส์หยก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการสังเกตการณ์พื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตห้ามสูบบุหรี่ตามสถานีขนส่งต่างๆทุกประเภท ซึ่งจะมีที่ดับบุหรี่ตั้งอยู่ที่นอกทางเข้าอาคาร เพื่อให้ประชาชนดับบุหรี่ก่อนเดินเข้าไปในอาคาร พบว่านักสูบส่วนใหญ่เข้าใจผิด คิดว่าเป็นที่สูบบุหรี่ จึงสูบบุหรี่และปล่อยควันออกมา ทำให้กลิ่นควันบุหรี่เล็ดลอดเข้าไปในอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ปรับอากาศ ก่อให้เกิดความรำคาญ และเกิดการแพร่กระจายควันพิษบุหรี่ ซึ่งมีสารพิษมากกว่า 4,000 ชนิด มีสารก่อมะเร็งในคนไม่ต่ำกว่า 42 ชนิด ซึ่งไม่มีความปลอดภัยใดๆทั้งสิ้นหลังสัมผัส นายแพทย์เสรีกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เจ้าของสถานที่ ให้ติดป้ายเตือนให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าไม่ใช่พื้นที่อนุญาตให้สูบบุหรี่ และขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบการสูบบุหรี่ในเขตต้องห้าม ให้แจ้งข้อมูลที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนบุหรี่และเหล้า ของกระทรวงสาธารณสุข หมายเลข 0-2590-3342 หรือตู้ปณ. 224 ปณจ.นนทบุรี 11000 หรือที่www.thaiantitobacco.com ****************** 4 พฤษภาคม 2551


   
   


View 8    04/05/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ