คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ เห็นชอบจัดตั้งคณะทำงาน ที่มาจากทุกภาคส่วน ร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการฆ่าตัวตาย ช่วยกลุ่มเสี่ยงที่มีภาวะเครียด-เศร้า-เหงา-ทุกข์  ก้าวผ่านวิกฤตจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ที่เกิดขึ้นนี้

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานและจัดหาแนวทางการ ดำเนินงานขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการฆ่าตัวตาย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงยุติธรรม ผู้แทน องค์กรภาคเอกชน เป็นต้น ร่วมกันดูแลทั้งด้านสุขภาพจิตใจ สุขภาพร่างกาย และด้านเศรษฐกิจสังคม เน้นเสริมสร้างพลังใจ สร้างความรับรู้และให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลด้านสิทธิ สวัสดิการทางสังคมและสุขภาพพื้นฐานเพื่อหาทางออก เป็นการ “ซื้อเวลา” สร้างกระบวนความคิดและเกิดการตัดสินใจใหม่ ลดการฆ่าตัวตาย, คัดกรอง ค้นหา และเฝ้าระวังประชาชนกลุ่มเสี่ยง ด้านสาธารณสุข เช่น  ผู้ป่วยโรคทางจิตเวช ผู้มีปัญหาสุรายาเสพติด และผู้เคยมีประวัติฆ่าตัวตาย, พัฒนารูปแบบการจัดการในจังหวัดที่มีกลุ่มเสี่ยงเพื่อลดจำนวนผู้ฆ่าตัวตาย และพัฒนาระบบเทคโนโลยี  นวัตกรรม ภายใต้ยุทธศาสตร์การป้องกัน การฆ่าตัวตายระดับชาติ ปี 2564-2565

          “การลดการฆ่าตัวตาย ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย ในการรับฟังปัญหา เฝ้าระวัง รักษาและให้คำแนะนำ ผ่อนคลายความทุกข์แก่ประชาชนที่มีภาวะความเครียด ความเหงา ความเศร้า ความทุกข์ ให้ก้าวผ่าน ปรับตัวกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ” นายอนุทินกล่าว

          ทั้งนี้ ประเทศไทย มีการพยายามฆ่าตัวตายเฉลี่ยปีละ 53,000 – 54,000 คน และกระทำการฆ่าตัวตายสำเร็จประมาณ 4,000 คน คิดเป็น 6-6.5 ต่อแสนประชากร ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา  โดยพบเป็นเพศชายมากกว่าหญิง เป็นกลุ่มวัยทำงาน กับผู้สูงอายุ และกลุ่มอาชีพผู้ใช้แรงงาน/กลุ่มรับจ้าง เกษตรกรรม รวมทั้งกลุ่มไม่มีรายได้ สำหรับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของการฆ่าตัวตาย พบว่าส่วนมากเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ปัญหาความสัมพันธ์ ปัญหาสุราและสารเสพติด ความเจ็บป่วยเรื้อรังทางกายและจิต ตลอดจนปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยที่ปัจจัยทางเศรษฐกิจในปี 2563 นั้น มีความสัมพันธ์กับสาเหตุการฆ่าตัวตายมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา

          นอกจากนี้ที่ประชุม ยังเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานกำหนดมาตรฐานผู้ให้บริการด้านจิตวิทยาการปรึกษาทั้งแบบเฉพาะหน้าและผ่านเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อให้เกิดการบริการสาธารณสุข ในเชิงการส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการสำคัญที่จะช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตายด้วย และที่ประชุมยังพิจารณาให้จัดตั้งคณะทำงานและแนวทางการดำเนินงานเพื่อบูรณาการระบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้าน ร่วมกันทำงานเป็นเครือข่ายช่วยประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงาน ให้ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านได้รับการคุ้มครองสิทธิและรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามมาตรฐานสากล ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อตนเองและสังคม โดยผลักดันให้พร้อมลดภาระงบประมาณ และทรัพยากรด้านบุคลากรลง และผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างครอบคลุมตั้งแต่ระบบการนำส่งผู้ป่วย การรักษา  การใช้สิทธิรักษาพยาบาล ตลอดจนติดตามอาการรักษาอาการฟื้นฟูผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยมีอาชีพหรือดูแลตนเองได้ และสามารถอยู่ในครอบครัวและอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี  

****************************14 มกราคม 2564  

******************



   
   


View 2035    14/01/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ