ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ประชุมคณะทำงานระดับอธิบดี เตรียมการจัดประชุมกลไกการหารือทวิภาคีว่าด้วยความมั่นคงด้านสาธารณสุขแบบ 2+2 ระดับรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างไทย-เกาหลีใต้ เป็นครั้งแรก ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านสาธารณสุขทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค  และระดับโลก

          นายแพทย์พงศธร พอกเพิ่มดี ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ร่วมประชุมทางไกลระดับอธิบดี กับนางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ นายชอง ยัง-ซู หัวหน้าทีมนโยบาย ศูนย์ประสานงานโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ และนายชอง ฮง-กึน อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเกาหลีใต้ เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมกลไกการหารือทวิภาคีว่าด้วยความมั่นคงด้านสาธารณสุขแบบ 2+2 ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ของไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) คาดว่าจะจัดประชุมครั้งที่ 1 ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล

          นายแพทย์พงศธรกล่าวต่อว่า การประชุมที่จะจัดขึ้นครั้งนี้ เกิดขึ้นจากข้อเสนอของประเทศเกาหลีใต้ที่ริเริ่มกลไกหารือทวิภาคีระดับรัฐมนตรี เป็นเวทีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ของ 2 ประเทศ ได้หารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกัน ทั้งในกรอบทวิภาคี อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (CLMV) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม, ภูมิภาค 10 ประเทศอาเซียน และเวทีระหว่างประเทศ  โดยฝ่ายไทยได้เสนอความร่วมมือด้าน  ความมั่นคงด้านสาธารณสุข หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การส่งเสริมสุขภาพ การอำนวยความสะดวกการเดินทางไปมาระหว่างสองประเทศ การคุ้มครองดูแลคนไทยและคนเกาหลีใต้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 และการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขผ่านนโยบายมุ่งใต้ใหม่พลัส (New Southern Policy Plus - NSPP) ของเกาหลีใต้ กรอบอาเซียน กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง - เกาหลีใต้ และในเวทีระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก และกรอบวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลก

  *************************************  22 มกราคม 2564

*****************************************

 



   
   


View 2347    22/01/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ