กระทรวงสาธารณสุขพบผู้ป่วยติดเตียงใน กทม.ติดเชื้อโควิด 19 จากผู้ดูแลชาวเมียนมา เน้นย้ำผู้ดูแลผู้ป่วยต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เตือนนายจ้างพาแรงงานต่างชาติที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงผู้มีโรคประจำตัวไปตรวจหาเชื้อ ช่วงเทศกาลตรุษจีน ผู้สูงอายุเลี่ยงไปซื้อของไหว้ แจกอั่งเปาออนไลน์ การรับประทานอาหารร่วมกันต้องเว้นระยะห่าง ศึกษาสถานที่ไปไหว้พระหรือไปเที่ยว เน้นไม่แออัด

          วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทยว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 586 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รักษาหายเพิ่ม 533 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 - 5 กุมภาพันธ์ 2564 มีจำนวน 18,407 ราย หายป่วยสะสม 11,391 ราย ยังรักษา 6,997 ราย สัดส่วนการติดเชื้อรายใหม่วันนี้มาจาก จ.สมุทรสาคร 548 ราย คิดเป็นร้อยละ 95.64 , กรุงเทพมหานคร 18 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.14 และจังหวัดอื่นๆ 7 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.22 โดยสัปดาห์นี้พบการติดเชื้อใน 15 จังหวัด

          สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีเขตที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 6 เขต ได้แก่ บางแค ภาษีเจริญ จอมทอง หนองแขม บางบอน และบางขุนเทียน โดยบ่ายนี้มีรายงานพบผู้ป่วยติดเตียงเพศหญิงอายุ 95 ปี มีโรคประจำตัว โรคไต ความดันโลหิตสูง ติดเชื้อโควิด 19  จากผู้ดูแลชาวเมียนมา ซึ่งขณะนี้พบการติดเชื้อ 4 ราย ข้อมูลสอบสวนเบื้องต้นอาจมีความเชื่อมโยงกับชุมชนตลาดคลองเตย ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจพบการติดเชื้อเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงอาจมีความเชื่อมโยงจากกลุ่มนี้ รายละเอียดต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ดังนั้น ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีโรคประจำตัว ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ และขอให้นายจ้างที่ผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคเรื้อรังอยู่กับบ้าน และมีการจ้างแรงงานต่างชาติมาทำงาน ขอให้พาไปตรวจหาเชื้อ และกำชับควบคุมแรงงานต่างด้าวในช่วงนี้งดการเดินทางไปรวมกลุ่มกับเพื่อนเพื่อลดความเสี่ยง

          นายแพทย์จักรรัฐกล่าวต่อว่า สำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน ในช่วงวันซื้อ/วันไหว้ที่มีการพบปะหาสู่กันในหมู่ญาติ มี 3 ประเด็นที่ต้องระวัง คือ 1. การไปซื้อของที่ตลาด มีผู้คนจำนวนมาก ขอให้สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ผู้สูงอายุผู้มีโรคประจำตัวขอให้อยู่กับบ้านและให้ลูกหลานไปซื้อแทน 2. การแจกอั่งเปาอาจใช้ระบบออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสร่วมซองอั่งเปาหรือเงิน และ 3. การรวมญาติรับประทานอาหารด้วยกันที่บ้าน ขอให้มีการเว้นระยะห่าง งดดื่มสุรา เนื่องจากเป็นญาติและคนสนิททำให้การครองสติลดลง และลดการพูดคุยเสียงดัง ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการแพร่เชื้อในครอบครัวและนำไปสู่ครอบครัวอื่น ส่วนวันเที่ยวที่มีการไปสถานที่ท่องเที่ยวหรือไหว้พระไหว้เจ้า ขอให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความแออัด ควรรอให้มีคนจำนวนไม่มาก หรือไปสถานที่อื่นที่ไม่แออัดแทน เมื่อเข้าไปแล้วมีการเว้นระยะห่างจากคนข้างหน้า และสวมหน้ากากตลอดเวลา

  ***************************  5 กุมภาพันธ์ 2564

********************************



   
   


View 1637    05/02/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ