กระทรวงสาธารณสุข รับมอบตู้เก็บวัคซีน และอุปกรณ์ Monitoring ให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ 77 จังหวัด มูลค่า 3,927,000 บาท จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และเครือข่ายภาคเอกชน

          วันนี้ (11 มีนาคม 2564) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร รับมอบตู้เก็บวัคซีน และอุปกรณ์ Monitoring ให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ 77 จังหวัด มูลค่า 3,927,000 บาท จากนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะผู้บริหารกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และเครือข่ายภาคเอกชนภายใต้โครงการ “FTI ช่วยชาติสู้ COVID-19”

         นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลได้มีนโยบายจัดหาวัคซีนโควิด 19 เพื่อฉีดให้กับทุกคนในประเทศไทย ตามความสมัครใจให้ครอบคลุมภายในปี 2564 เพื่อให้ทุกคนในประเทศมีความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้รับวัคซีนโควิด 19 แล้ว จากบริษัทซิโนแวค 2 แสนโดส และบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า 117,300 โดส และจะได้รับอีก 8 แสนโดสจากบริษัทซิโนแวคในเดือนมีนาคมนี้ จึงต้องมีอุปกรณ์จัดเก็บเพื่อรักษาคุณภาพของวัคซีนให้ได้ตามมาตรฐานที่อุณหภูมิระหว่าง 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส และในวันนี้เป็นที่น่ายินดีที่ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และกลุ่มในเครือ ได้ให้การสนับสนุนนำตู้เก็บวัคซีนและอุปกรณ์ Monitoring มามอบให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ 77 จังหวัด ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นและมีความสำคัญมากในขณะนี้

         “กระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและกลุ่มในเครือ ที่ให้การสนับสนุนตู้เก็บวัคซีนโควิด 19 เป็นที่น่ายินดีว่าตู้เก็บวัคซีนดังกล่าวนี้ ผลิตโดยฝีมือคนไทยและได้รับการทดสอบจากสถาบันซึ่งเป็นที่ยอมรับ กระทรวงสาธารณสุขมีความเชื่อมั่นว่า ประชาชนชาวไทยจะได้รับวัคซีนโควิด 19 อย่างทั่วถึง และมีความพร้อมในการจัดเก็บในตู้เก็บวัคซีนที่ได้คุณภาพและผลิตโดยคนไทย” นายอนุทินกล่าว

         ทั้งนี้ ตู้เก็บวัคซีนล็อตแรกได้ส่งมอบให้แก่ สถานพยาบาลของรัฐ 21 จังหวัด เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา และจะส่งมอบตู้เก็บวัคซีนล็อตที่ 2 และ3 อีกจำนวน 56 จังหวัดให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้

          ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สอท.ได้จัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาจากสภาวการณ์โควิด โดยร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าฯ, กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศฯ, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพไทย, และบริษัทโนวา กรีน เพาเวอร์ ซิสเท็ม จำกัด ที่เป็นผู้ผลิต Monitoring สำหรับผู้ผลิตตู้เก็บวัคซีนที่เป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ ผลิตในประเทศไทย ร่วมกันจัดตั้งโครงการ “FTI ช่วยชาติสู้ COVID-19” ผลิตตู้เก็บวัคซีนเพื่อบริจาคให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตามแผนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล ที่ต้องการให้คนไทยได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพปลอดภัย ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนร่วมกันกำหนดมาตรฐานตู้เก็บวัคซีน ที่เหมาะสมกับประเทศไทย เพื่อต่อยอดเป็นมาตรฐานตู้เก็บวัคซีนของไทยต่อไป ในส่วนการทดสอบนั้น ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ทดสอบชั้นนำของประเทศ 5 แห่ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย คือ EEI , PTEC , UL , ITS , SGS ถือเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันจัดหาตู้เก็บวัคซีนที่มีคุณภาพ เพียงพอต่อความต้องการของสถานพยาบาล และเพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

**************************** 11 มีนาคม 2564

********************************************



   
   


View 747    11/03/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ