กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสุ่มตรวจกุ้งในตลาดกลางกุ้ง ไม่พบเชื้อโควิด 19 มีความปลอดภัย บริโภคได้ ย้ำต้องปรุงสุก คงสุ่มตรวจต่อเนื่องเป็นระยะเพื่อสร้างความมั่นใจ

          บ่ายวันนี้ (19 มีนาคม 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการสุ่มตรวจกุ้งในตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร หลังจากมีการเปิดตลาดอีกครั้ง ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2564 ว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อในตลาดส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันแล้ว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการฉีดวัคซีนให้ผู้ค้าในตลาดค่อนข้างมาก ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างปลอดภัยในการเข้าไปใช้บริการ แต่ยังต้องคงมาตรการป้องกันโรค ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง

          นายแพทย์ศุภกิจกล่าวต่อว่า ประชาชนอาจยังกังวลว่ากุ้งที่ขายในตลาดกลางกุ้งมีความปลอดภัยที่จะนำมาบริโภคหรือไม่ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 จ.สมุทรสงคราม จึงสุ่มเก็บตัวอย่างกุ้งเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 จำนวน 5 แพ จากแพกุ้ง 8 แพ รวม 9 ตัวอย่าง เป็นกุ้งขาว 5 ตัวอย่าง และกุ้งก้ามกราม 4 ตัวอย่าง ผลการตรวจไม่พบเชื้อทุกตัวอย่าง จากนี้จะมีการวางแผนสุ่มตรวจแพกุ้งที่เหลือเป็นระยะ เพื่อสร้างความมั่นใจปลอดภัยแก่ประชาชน ทั้งนี้ แม้การตรวจเชื้อโควิด 19 ในอาหารจะมีความซับซ้อนกว่าการตรวจในคน ทั้งการเตรียมตัวอย่าง การสกัด และใช้เทคนิคที่สลับซับซ้อน แต่ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถดำเนินการได้ และเคยดำเนินการตรวจมาแล้ว ทั้งปลาหมึก ปลากะพง และหอย

          “การไปซื้อกุ้งมาทำอาหารถือว่ามีความปลอดภัย ไม่มีเชื้อโควิด แต่การปรุงอาหารยังต้องทำให้สุก ซึ่งช่วยฆ่าเชื้ออื่นๆ ที่อาจติดมากับกุ้ง เช่น เชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น จึงบริโภคได้อย่างปลอดภัย สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ยังไม่พบผู้เกิดอาการแพ้รุนแรง อย่างไรก็ตาม บุคคลที่แพ้อาหารทะเลหรือเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาจต้องระวังเป็นพิเศษขณะรับวัคซีน เนื่องจากอาจแพ้ส่วนประกอบในวัคซีนได้ แต่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ซึ่งหลังรับวัคซีนมีระบบการเฝ้าระวังสังเกตอาการที่โรงพยาบาล 30 นาที ส่วนกรณีฉีดวัคซีนแล้วทำให้แพ้กุ้ง-แพ้อาหารทะเลมากขึ้นนั้นไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์” นายแพทย์ศุภกิจกล่าว

          นายแพทย์ศุภกิจกล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มทยอยฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้ว ขอให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เข้ารับวัคซีนตามนัด โดยเฉพาะวัคซีนเข็มที่สอง เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยวันที่ 20 มีนาคม 2564 จะมีวัคซีนของซิโนแวคเข้ามาอีก 8 แสนโดส จะได้ดำเนินการฉีดวัคซีนครอบคลุมมากขึ้น หากเป็นไปตามแผนช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าทยอยออกมา 26 ล้านโดส ทำให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรไม่น้อยกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคนี้

  *********************************  19 มีนาคม 2564

***********************************************



   
   


View 2119    19/03/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ