กระทรวงสาธารณสุขย้ำผู้รับวัคซีนโควิด 19 ให้ไปรับวัคซีนเข็มที่สองตามนัด เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เผยมีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 5,862 ราย เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนวัคซีนล็อตใหม่ 8 แสนโดส กระจายให้ 3 พื้นที่ 22 จังหวัด เหลือสำรองให้จังหวัดที่มีการระบาด

     วันนี้ (24 มีนาคม 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ว่า การฉีดวัคซีนโควิด 19 ถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 23 มีนาคม 2564 ฉีดวัคซีนไปแล้ว 102,050 โดส แบ่งเป็นผู้รับวัคซีนเข็มแรก 96,188 ราย และรับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 5,862 ราย ทั้งนี้ผู้ที่รับวัคซีนเข็มแรกแล้วขอให้ไปรับวัคซีนเข็มที่ 2 ตามนัด เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ โดยวัคซีนจะช่วยลดอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต แต่ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ หากประมาทและการ์ดตก ดังนั้นผู้ที่รับวัคซีนแล้วขอให้คงการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ลดความแออัด และล้างมือบ่อยๆ

       “ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนจะได้เอกสารรับรองการได้รับวัคซีนโควิด 19 ที่มีรายละเอียดของบุคคล วันที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 รายชื่อผู้ที่รับรองการฉีดวัคซีน โดยจะมีคิวอาร์โคดสแกนเพื่อแสดงข้อมูลทางดิจิทัลได้ด้วย นอกจากนี้ ยังให้ใบรับรองดิจิทัลผ่านไลน์หมอพร้อมด้วย กรณีเดินทางระหว่างประเทศก็สามารถใช้เป็นเอกสารเริ่มต้นในการทำเอกสารรับรองการเดินทางระหว่างประเทศ ส่วนสมุดเล่มเหลืองหรือวัคซีนพาสปอร์ตต้องรอการตกลงร่วมกันกับประเทศปลายทางหรือตกลงร่วมกันในหลายประเทศผ่านองค์การอนามัยโลกหรือสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ” นายแพทย์โสภณกล่าว

      ส่วนวัคซีนโควิด 19 ล็อตใหม่ที่ได้รับล่าสุดจำนวน 8 แสนโดสอยู่ระหว่างการตรวจรับรองรุ่นการผลิต จากนั้นองค์การเภสัชกรรมจะส่งมอบให้แก่กรมควบคุมโรค เพื่อจัดสรรและกระจายไปยังพื้นที่เป้าหมายต่อไปโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) ได้เห็นชอบแผนการจัดสรรและการกระจายวัคซีนใน 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ควบคุมการระบาด 6 จังหวัด, พื้นที่ท่องเที่ยว 8 จังหวัด และพื้นที่ชายแดน 8 จังหวัด รวม 22 จังหวัด จำนวน 5.9 แสนโดส ทั้งนี้ จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนเป็นครั้งแรกขอให้เน้นการฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ รวมทั้งประชาชนกลุ่มเสี่ยงเป็นลำดับแรก

     ส่วนวัคซีนที่เหลืออีก 2.1 แสนโดส จะให้กับบุคลากรสาธารณสุข อสม. และเจ้าหน้าที่กลุ่มอื่นๆ ที่จำเป็นในจังหวัดอื่นนอกเหนือจาก 22 จังหวัดนี้ เนื่องจากมีโอกาสพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 เช่นกัน หรือเป็นจังหวัดที่ไม่มีการระบาดแต่รับส่งต่อผู้ป่วยมาจากจังหวัดที่มีการระบาด หรือรักษาผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น เช่น ศรีสะเกษ และมุกดาหาร ที่มีผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากจังหวัดที่พบการระบาดกลับภูมิลำเนา แพทย์ พยาบาลที่ดูแลรักษาก็มีโอกาสเสี่ยงได้ จึงได้รับการจัดสรรวัคซีนด้วย รวมถึงผู้ที่มีความจำเป็นในการเดินทางระหว่างประเทศ เช่น นักการทูตไทยที่เดินทางไปประจำการในต่างประเทศ นักกีฬาทีมชาติไทยที่จะไปแข่งในต่างประเทศ หรือกลุ่มอื่นๆ ที่มีภารกิจเดินทางระหว่างประเทศและปลายทางกำหนดให้มีการฉีดวัคซีนโควิด 19 นอกจากนี้ยังเตรียมไว้สำหรับการควบคุมการระบาดในจังหวัดอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจาก 22 จังหวัด จะได้มีวัคซีนใช้ในการควบคุมจำกัดการแพร่ระบาด

 ******************************* 24 มีนาคม 2564

**************************



   
   


View 2788    24/03/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ