“หมออุดม” เตือนสงกรานต์นี้ทุกคนต้องระวังตัวเองขั้นสูงสุด อาจรับเชื้อโดยไม่รู้ตัวจากผู้ติดเชื้อที่ไม่ แสดงอาการและยังไม่ไปตรวจ หากเดินทางกลับบ้านให้อยู่กับครอบครัวตัวเอง ไม่ไปสถานที่เสี่ยงหรือทำตัวเองให้มีความเสี่ยง เน้นใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง เป็นวัคซีนตัวจริงป้องกันตัวเอง ครอบครัว คนรอบข้าง และประเทศ ย้ำฉีดวัคซีนช่วยลดความรุนแรงของโรค และลดการเสียชีวิต ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ เพราะป้องกันได้ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์

     วันนี้ (8 เมษายน 2564) ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 สะสม ถึง 3 หมื่นรายแล้ว และอาจมีผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ไม่เคยไปตรวจอีกจำนวนมาก ทำให้อาจรับเชื้อและแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบุคคลในครอบครัว รวมทั้งผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวหากติดเชื้อมีความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ดังนั้น ในช่วงสงกรานต์ซึ่งมีการเดินทางจำนวนมาก ขอให้ประชาชนระวังตัวเอง ขั้นสูงสุดตลอดเวลา ให้คิดว่าทุกคนมีความเสี่ยงติดเชื้อ และระวังตัวเองไม่นำเชื้อไปติดคนอื่น เมื่อเดินทางข้ามจังหวัดอาจทำให้จังหวัดที่เป็นพื้นที่สีเขียวเกิดการติดเชื้อได้

      “หากเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ ขอให้อยู่ในครอบครัว อย่าไปสุงสิงกับครอบครัวอื่น ไม่ไปสถานที่เสี่ยง ไม่ทำตัวเองให้มีความเสี่ยง หากออกจากบ้านต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร ซึ่ง 3 มาตรการด้านสาธารณสุขนี้ ต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้นจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้จริง” ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดมกล่าว

     ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม กล่าวต่อว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 แม้จะรับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ก็ยังมีความเสี่ยงติดเชื้อได้ เนื่องจากไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ 100% โดยหลังฉีดวัคซีนเข็มแรกประมาณ 2-3 สัปดาห์จะมีภูมิคุ้มกันประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อฉีดครบ 2 เข็มภูมิคุ้มกันจะขึ้นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น แม้จะรับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว หากไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงก็มีโอกาสติดเชื้อได้ แต่อาการจะน้อยหรือป่วยไม่รุนแรง จึงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด คือ ใส่หน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ถือเป็นวัคซีนตัวจริงที่ช่วยปกป้องตัวเอง คนที่เรารัก ครอบครัว เพื่อน คนรอบข้าง และประเทศไทยจากโรคโควิด 19

*********************************************

 



   
   


View 3251    08/04/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ