รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยประชาชนทั่วไปในต่างจังหวัด ลงทะเบียนนัดฉีดวัคซีนโควิดผ่าน "หมอพร้อม" ได้ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคมเป็นต้นไป เริ่มฉีดวันที่ 1 สิงหาคม ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครจะดำเนินการลงทะเบียนแยกต่างหาก ยันทุกคนที่ฉีดวัคซีนจะเข้าสู่ระบบหมอพร้อม เพื่อติดตามอาการและออกใบรับรอง

          วันนี้ (21 พฤษภาคม 2564) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี  ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมชี้แจงการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด 19 สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป ผ่านระบบ Cisco Webex Meeting ร่วมกับนายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

ดร.สาธิตกล่าวว่า การจัดสรรวัคซีนโควิด 19 เป็นไปตามหลักการทางการแพทย์ โดยช่วงที่มีการระบาด ประเทศไทยได้จัดหาวัคซีนโควิด 19 ในระยะเร่งด่วนมารองรับก่อนที่จะมีวัคซีนล็อตใหญ่ในเดือนมิถุนายน จัดสรรไปในพื้นที่ระบาด พื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่ท่องเที่ยว และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยเปิดให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง รวม 16 ล้านคน ลงทะเบียนนัดหมายฉีดวัคซีนผ่านระบบ “หมอพร้อม” ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ เพื่อรับการฉีดตั้งแต่เดือนมิถุนายนและกรกฎาคม หากลงทะเบียนในช่วงเดือนมิถุนายนจะได้รับการฉีดวัคซีนในช่วงสิงหาคมเป็นต้นไป

          สำหรับประชาชนทั่วไปในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถลงทะเบียนนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด 19 ผ่าน หมอพร้อมได้ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 จะได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ส่วนกรุงเทพมหานครจะดำเนินการเปิดรับการลงทะเบียนฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เอง ไม่ผ่านระบบหมอพร้อม โดยกระทรวงสาธารณสุขจะจัดส่งวัคซีนให้ ทุกจังหวัดและกทม.ตามแผนการจัดสรร

          “นอกจากระบบหมอพร้อม ประชาชนยังสามารถลงทะเบียนนัดหมายฉีดวัคซีนผ่านช่องทางอื่นได้ ทั้ง อสม. โรงพยาบาล หรือช่องทางที่แต่ละจังหวัดกำหนดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะลงทะเบียนนัดหมายผ่านช่องทางใด เมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะมีการส่งข้อมูลเข้ามาสู่หมอพร้อม เพื่อติดตามอาการภายหลังการฉีดวัคซีนและการออกใบรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นข้อมูลระดับประเทศ ที่จะใช้อ้างอิงเมื่อต้องติดต่อหรือเดินทางไปต่างประเทศ จึงมีความน่าเชื่อถือเพราะออกรับรองในนามของประเทศไทย” ดร.สาธิตกล่าว

          ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีหน่วยงานองค์กรต่างๆ ที่จะนัดหมายฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ให้แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งเป็นไปตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด โดยหน่วยงานจะต้องประสานโรงพยาบาลเอกชนเข้ามาดำเนินการฉีดให้ ส่วนการมาลงทะเบียนนัดหมายฉีดวัคซีนที่จุดฉีดขึ้นอยู่กับหน้างาน และความพร้อมของแต่ละจังหวัดด้วย

*********************************** 21 พฤษภาคม 2564



   
   


View 4249    21/05/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ