รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยข่าวดีต่อสัญญา รพ.บุษราคัมจนถึงสิ้น ต.ค.นี้ เตรียมเปิดเพิ่มอีก 2 พันเตียงรองรับผู้ป่วยโควิดสีเหลือง เผยกลุ่มร้านอาหารและหาบเร่ กทม.ขอรับการจัดสรรวัคซีนเป็นเครือข่าย คาดมีประมาณ 2 แสนคน มอบกรมควบคุมโรคพิจารณา ยันไม่กระทบการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุและ 7 โรคเรื้อรัง

          วันนี้ (29 มิถุนายน 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ประชุมร่วมกับตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยและหาบเร่แผงลอยในพื้นที่ กทม. ซึ่งเข้าพบเพื่อขอรับการจัดสรรวัคซีนโควิด 19

          นายอนุทินกล่าวว่า ผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยและหาบเร่แผงลอยถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับประชาชน ทราบว่าส่วนหนึ่งไม่อยู่ในระบบประกันสังคมและอยู่นอกกลุ่มการลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมและไทยร่วมใจ จึงมาหารือเพื่อขอให้กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนโควิด 19 ได้เสนอให้รวบรวมรายชื่อมาเป็นกลุ่มภาคีเครือข่าย เพื่อให้กรมควบคุมโรคพิจารณาจัดสรรวัคซีนเป็นลักษณะกลุ่มก้อนเช่นเดียวกับผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ แท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ จะได้มีความปลอดภัยทั้งผู้ประกอบการและลูกค้า คาดว่ามีประมาณ 2 แสนคน โดยอาจจัดให้มาฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ โดยกรมควบคุมโรคจะหารือกับ กทม.และประกันสังคมว่ามีการฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้แล้ว เพื่อบริหารจัดการยอดวัคซีนให้ชัดเจน โดยยืนยันว่าไม่กระทบกับการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่จะฉีดให้ครบภายใน 1-2 เดือนนี้ตามนโยบายของ ศบค.และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี แล้วจึงฉีดวัคซีนในกลุ่มอื่นต่อไป

            นายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับการหารือกับทางเมืองทองธานี เพื่อต่อสัญญาทำโรงพยาบาลบุษราคัมทางผู้บริหารของเมืองทองธานีได้ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยระบุว่าตราบใดที่ยังจัดแสดงสินค้าและจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ได้ ก็จะให้กระทรวงสาธารณสุขใช้สถานที่ ซึ่งเบื้องต้นทางกระทรวงสาธารณสุขขอต่อสัญญาใช้ถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ โดยคาดว่าระยะเวลา 4 เดือนจากนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระการขาดแคลนเตียงใน กทม.ได้ ทำให้ขยายเตียงในฮอลล์กลางเพิ่มขึ้นอีก 2 พันเตียง รวมมีเตียงรองรับผู้ป่วยอาการสีเหลืองประมาณ 4 พันเตียง โดยผู้ผลิตเตรียมพร้อมสนับสนุนเตียงเพิ่มเติม

           ด้าน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เดือนกรกฎาคมนี้มีผู้สูงอายุและ7 กลุ่มโรคเรื้อรังจองฉีดวัคซีนผ่านหมอพร้อมประมาณ 4 ล้านคน ส่วนวัคซีนคาดว่าจะมีประมาณ 10 ล้านโดส จึงถือว่าเพียงพอในการฉีดให้ครบ และจะเลื่อนผู้สูงอายุและ 7 โรคเรื้อรังที่มีคิวฉีดเดือนสิงหาคมให้รับการฉีดเร็วขึ้นด้วย รวมถึงจะฉีดเพื่อควบคุมการระบาด เช่น พื้นที่ กทม.และปริมณฑล บุคลากรป้องกันควบคุมโรคด่านหน้าที่ยังตกหล่น เช่น ทหารที่ต้องไปควบคุมแคมป์คนงานที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และฉีดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะอื่นๆ เป็นต้น

********************************* 29 มิถุนายน 2564



   
   


View 2015    29/06/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ