นายกรัฐมนตรี เปิด Phuket Tourism Sandbox และรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามาในวันนี้ 4 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเกือบ 300 คน พร้อมดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มข้น

        วันนี้ (1 กรกฎาคม 2564) ที่ จ.ภูเก็ต พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด Phuket Tourism Sandbox ตามเป้าหมายรัฐบาลที่กำหนดไว้ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะรัฐมนตรี คณะผู้บริหารจากกระทรวงต่างๆ ตัวแทนจาก สภาหอการค้า ธุรกิจท่องเที่ยว ร่วมงาน โดย Phuket Tourism Sandbox เป็นโครงการสำคัญของรัฐบาลที่จะนำร่องให้กับจังหวัดอื่นๆ ที่มีความพร้อม ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ  ซึ่งทุกคนจะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่ ศบค. กำหนด เพื่อที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และพร้อมเดินหน้าเปิดประเทศในอีก 120 วัน ตามแผนรัฐบาล เนื่องจากรายได้ของประเทศไทยมาจากการท่องเที่ยวถึงร้อยละ 90 นอกจากนี้ได้ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน และ อสม. ที่เสียสละทำงานอย่างหนัก และขอให้ อสม. ช่วยกันดูแลประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนและต่อจากนี้ให้ช่วยกันดูแลคนที่เดินทางเข้ามาเนื่องจาก ภูเก็ตเป็นน้ำเลี้ยงสำคัญ สร้างรายได้ให้กับประเทศ ถ้าทำได้ดีจะเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ซึ่งทุกอย่างจะสำเร็จได้ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน

        นายอนุทิน กล่าวว่า บทบาทของกระทรวงสาธารณสุขในการขับเคลื่อน Phuket Tourism Sandbox คือการกำหนดมาตรการทางสาธารณสุข 5 ด้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของคนภูเก็ต โดยให้เกิดความสมดุลระหว่างด้านสุขภาพและเศรษฐกิจควบคู่กันไปได้แก่ มาตรการที่ 1 การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้คนภูเก็ตได้รับวัคซีนครบตามเป้าหมายคือร้อยละ 70 ของประชากรแล้ว มาตรการที่ 2 การคัดกรองผู้ที่มาจากต่างจังหวัดและพื้นที่เสี่ยงทั้งด่านอากาศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต) ด่านบก (ด่านท่าฉัตรชัย ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่จะเดินทางเข้า จ.ภูเก็ต ได้) และด่านท่าเรือ (ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง, ท่าเทียบเรือรัษฎา, ท่าเทียบเรืออ่าวปอ กรณีที่จะเดินทางโดยเรือยอร์ชให้เดินทางออกจากท่าเรือที่กำหนด ได้แก่ ท่าเทียบเรือยอร์ซ เฮเว่น มารีน่า, ท่าเทียบเรืออ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า, ท่าเทียบเรือภูเก็ต โบ๊ทลากูน, ท่าเทียบเรือรอยัล ภูเก็ต มารีน่า, ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง) อย่างเข้มข้นโดยกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับฝ่ายความมั่นคงฝ่ายปกครอง และท้องถิ่น ทำการคัดกรองผู้เดินทางเข้า จ.ภูเก็ต ซึ่งจะต้องได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มหรือแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็มอย่างน้อย 14 วัน หรือมีผลตรวจคัดกรองโควิด 19 ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ซึ่งหากเอกสาร
ไม่ครบจะมีการผลักดันออกนอกพื้นที่ หรือพบผู้ที่มีอาการป่วยเข้าข่ายจะมีระบบส่งต่อเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที มาตรการที่ 3 การเฝ้าระวังเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงและชุมชนเสี่ยงมาตรการที่ 4 มีความพร้อมด้านห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมาตรการที่ 5 ด้านการรักษาพยาบาล เมื่อพบผู้ติดเชื้อหรือเกิดการแพร่ระบาด ซึ่งมีศักยภาพรองรับอย่างเพียงพอ

       และในวันนี้ เป็นวันแรกที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกจาก 4 เที่ยวบิน ได้แก่สายการบินเอทิฮัด เส้นทาง อาบูดาบี-ภูเก็ต มีผู้โดยสาร 25 คน สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เส้นทาง โดฮา-ภูเก็ต  ผู้โดยสาร 116 คน สายการบินแอล อัล อิสราเอล แอร์ไลน์ เส้นทางเทลอาวีฟ-ภูเก็ต  ผู้โดยสาร 101 คน และ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เส้นทางสิงคโปร์-ภูเก็ต ผู้โดยสาร 46 คน โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เข้าไปดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวด โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน และมีเอกสารรับรอง กรณีเด็กที่มากับผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถเดินทาง

       พร้อมกันได้ กรณีเคยติดเชื้อต้องได้รับวัคซีนตามกำหนดทั้ง 2 เข็มมาแล้วอย่างน้อย 14 วันหรือมีผลการตรวจโควิด 19 ภายใน 72 ชั่วโมง ขณะนี้มีประเทศที่อนุญาต ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทยตามมาตรการแล้วจำนวน 66 ประเทศ

         ทั้งนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว โรงแรมจะจัดรถรับส่งสนามบินและที่พัก และเข้ารับการตรวจหาเชื้อครั้งแรก เมื่อทราบผลการตรวจแล้วไม่พบเชื้อสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ และนักท่องเที่ยวต้องตรวจหาเชื้ออีก 2 ครั้งในวันที่ 6 - 7 และวันที่ 12-13 หากไม่ติดเชื้อ และพำนักในภูเก็ตแล้ว 14 คืน จึงจะออกนอกจังหวัดได้ ยกเว้นการเดินทางออกนอกประเทศ และต้องปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA อย่างเคร่งครัด

**************************** 1 กรกฎาคม 2564

**************************



   
   


View 1825    01/07/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ