รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยบริษัทตัวแทนวัคซีนโมเดอร์นาในประเทศไทย นำเข้าวัคซีนได้เร็วที่สุดในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยองค์การเภสัชกรรมเป็นสะพานเชื่อมการสั่งซื้อให้กับโรงพยาบาลเอกชน

          วันนี้ (2 กรกฎาคม 2564) ที่โรงพยาบาลสนามกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 11 เขตหลักสี่ กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ ยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่ครอบคลุมการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด 19 วัคซีนของประเทศไทยที่ประชาชนได้รับการฉีดเป็นวัคซีนที่มีความเหมาะสม สามารถช่วยป้องกันการเสียชีวิตและลดความรุนแรงของโรคได้ มีประสิทธิภาพประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อได้ ซึ่งวันนี้นักวิชาการได้มีการเสวนาความคืบหน้าของวัคซีนที่ใช้ในประเทศที่กระทรวงสาธารณสุข จากการที่จังหวัดภูเก็ตฉีดเข็มแรกให้กับประชาชนครอบคลุม 70 เปอร์เซ็นต์ ได้ทำการวิจัยศึกษาประสิทธิผลของการใช้วัคซีนซิโนแวคในสถานการณ์จริง ได้ผลในระดับที่ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของสากล

          ในเรื่องของวัคซีน ทุกคนมีความหวังดีต่อบ้านเมืองต้องการให้มีวัคซีนโมเดอร์นาเข้ามาในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ทางบริษัทที่เป็นตัวแทนวัคซีนโมเดอร์นาในประเทศไทย ได้ชี้แจงว่า สามารถนำเข้าวัคซีนได้เร็วที่สุดในไตรมาส 4 ซึ่งวัคซีนโมเดอร์นาเป็นวัคซีนทางเลือก ที่ภาคเอกชนสามารถนำมาให้บริการกับประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากเป็นวัคซีนภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินบริษัทจะขายให้กับหน่วยงานภาครัฐ รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม เป็นสะพานเชื่อมผู้ผลิตวัคซีนกับผู้ซื้อ หากทุกคนทำตามข้อตกลงการสั่งซื้อก็จะเกิดขึ้นได้

          นายอนุทินกล่าวต่อว่า กรณีที่บอกว่าองค์การเภสัชกรรมไม่ยอมเซ็นสัญญานั้น องค์การเภสัชกรรมต้องได้รับการยืนยันการสั่งจองจากสมาคมโรงพยาบาลว่าโรงพยาบาลเอกชนต้องการซื้อเท่าไหร่ จากนั้นแจ้งยืนยันจำนวน และชำระเงินให้กับองค์การเภสัชกรรม เพื่อเป็นสะพานในการเชื่อมต่อในการประสาน สั่งซื้อ องค์การเภสัชกรรมไม่เกี่ยวข้องในเรื่องการที่จะต้องเจรจาหรือสำรองจ่ายเงินให้ก่อน และรับความเสี่ยงต่างๆ หรือจะต้องมีการสละสิทธิ์ในการฟ้องร้องหากมีอะไรเกิดขึ้น โรงพยาบาลเอกชนจะฟ้องร้ององค์การเภสัชกรรมในฐานะผู้นำเข้าวัคซีนหรือเป็นผู้ขายไม่ได้ จึงต้องมีการตกลงเงื่อนไขต่างๆ

 ***************************** 2 กรกฎาคม 2564



   
   


View 2330    02/07/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ