รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ต้องรอมติจาก ศบค. ในวันพรุ่งนี้ ในส่วนสาธารณสุขได้จัดทำแนวทางข้อเสนอตามหลักวิชาการทางการแพทย์
และตามสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันที่สุด ด้านการดูแลผู้ติดเชื้อพยายามหาพื้นที่ตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเตียงให้มากที่สุด และให้ สพฉ.ใช้เครือข่ายรถกู้ภัยนำผู้ป่วยตกค้างที่บ้านเข้าสู่กระบวนการรักษา

           วันนี้ (8 กรกฎาคม 2564) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากากระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุขเพื่อหารือและจัดทำแนวทางยกระดับมาตรการควบคุมโรคโควิด 19 ที่มีนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อเสนอ ศบค. ที่จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (9 กรกฎาคม 2564) โดยได้เตรียมข้อเสนอตามหลักวิชาการทางการแพทย์ และตามสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบัน อย่างไรก็ตามต้องมีการหารือร่วมจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชนด้วย

           สำหรับการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 ใน กทม. กระทรวงสาธารณสุขได้ประสาน กทม. เพื่อที่จะหาวิธีการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหา เช่น การตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจรู้ผลเร็ว (Rapid Antigen Test) ซึ่งที่ประชุม EOC ให้การเห็นชอบ นอกจากนี้ได้พยายามเพิ่มเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด โดยให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเร่งออกแบบและหาสถานที่ อาทิ อาคารผู้โดยสารแซทเทิลไลท์ (SAT 1) ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งกระทรวงคมนาคมให้การสนับสนุนเพื่อจัดทำโรงพยาบาลสนามยกระดับคล้ายกับโรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งจะทำการจัดตั้งโดยเร็วที่สุด รวมถึงให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ใช้เครือข่ายรถกู้ภัยเร่งประสานพาผู้ป่วยที่ติดค้างที่บ้านเข้าศูนย์แรกรับนิมิบุตร และส่งต่อรักษาตามอาการ เพื่อแบ่งเบาภาระของกทมให้มากที่สุด ที่ผ่านมามีผู้ป่วยหลายคนที่ได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบุษราคัมเพื่อให้การดูแลรักษา

************************************ 8 กรกฎาคม 2564



   
   


View 2870    08/07/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ