รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันรัฐบาลจะจัดหาวัคซีนโควิด 19 ให้ประชาชนในประเทศไทยทุกคน มอบกรมควบคุมโรคเร่งเจรจาต่อรองกับแอสตร้าไทยแลนด์ ให้ได้วัคซีนมากที่สุด เร็วที่สุด

        วันนี้ (17 กรกฎาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการจัดบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่สถานีกลางบางซื่อว่า วันนี้ได้มาติดตามการฉีดวัคซีนที่นี้ ซึ่งเปิดบริการฉีดวัคซีนให้ประชาชนต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 55 แล้ว (ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม -16 กรกฎาคม 2564) ด้วยอัตรากำลังแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกรและเจ้าหน้าที่สนับสนุนวันละ 420 คน ให้บริการฉีดวัคซีนไปแล้ว 819,011โดส พร้อมกำชับให้เร่งรัดดำเนินการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคและหญิงตั้งครรภ์ เพื่อให้เกิดภูมิต้านทาน ลดการเจ็บป่วยรุนแรง ลดอัตราการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด

       นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในช่วงที่มีการระบาดของโรครุนแรงนี้ ได้มีข้อสั่งการ ให้สลับชนิดการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการเสนอจากคณะกรรมการวิชาการที่ประกอบด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลวิธีการบริหารจัดการวัคซีน ที่ได้ทำการศึกษาวิจัยวิธีการฉีดวัคซีนซิโนแวคสลับกับแอสตร้าเซนเนก้า  ทำให้เกิดภูมิต้านทานในระยะเวลาอันสั้น มีประโยชน์ต่อประชาชนในการรับมือกับสายพันธุ์เดลต้า ฝ่ายนโยบายได้พิจารณาว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดรุนแรงจึงได้รับแนวทางมาดำเนินการ

       ในส่วนของการจัดหาวัคซีน กรมควบคุมโรคในฐานะคู่สัญญากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้เจรจาต่อรองอย่างต่อเนื่องให้ผู้ผลิตที่จะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้ประเทศไทยมากที่สุด เร็วที่สุด โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดรุนแรงขณะนี้ โดยได้ตั้งคณะทำงานในการเจรจากับผู้ผลิต

        “รัฐบาลไทยจะจัดหาวัคซีนและฉีดให้กับคนในประเทศไทยจนครบทุกคน จนกว่าโรคโควิดจะหมดไปหรือจนกลายเป็นโรคประจำถิ่น” นายอนุทินกล่าว

***************************************** 17 กรกฎาคม 2564

*********************************



   
   


View 3579    17/07/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ