กระทรวงสาธารณสุข ย้ำกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 โดยเร็วที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต ส่วนผู้หายป่วยจากโควิด 19 หลังเข้ารับการรักษาหรือกักตัวจนครบ 14 วันแล้ว ไม่สามารถแพร่เชื้อได้

         วันนี้ (15 สิงหาคม 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยว่า วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้ 21,106 ราย สะสม 661,236 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ในระดับสูง 21,882 ราย อยู่ในต่างจังหวัด มากกว่า กทม.และปริมณฑล ส่วนอัตราการเสียชีวิตยังทรงตัว ข้อมูลตั้งแต่ 1 พฤษภาคม - 14 สิงหาคม 2564 พบการเสียชีวิตในกลุ่มอายุ 60-69 ปี ร้อยละ 24 และอายุ 70 ปีขึ้นไป ร้อยละ 42 รวมสองกลุ่มสูงถึงร้อยละ 68 สอดคล้องกับการรายงานผู้เสียชีวิตวันนี้ 209 ราย ที่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 66 และผู้ที่มีโรคเรื้อรังร้อยละ 23 รวมทั้งสองกลุ่มร้อยละ 89 ดังนั้นผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยงรวมถึง 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ จึงควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต

          นายแพทย์เฉวตสรรกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกขณะนี้ยังพบการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตไม่ได้สูงตาม เป็นผลจากการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนแม้ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100 เปอร์เซนต์ แต่มีผลป้องกันการเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อประเทศสหรัฐอเมริกายังย้ำให้ประชากรเข้มมาตรการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ เพราะเป็นตัวช่วยในการป้องกันที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกันกับที่ประเทศไทยดำเนินการ

         ในส่วนของประเทศไทย ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ - 14 สิงหาคม 2564 ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนแล้ว 23,476,869 โดส เป็นเข็มแรก 17,879,206 โดส เข็มสอง 5,073,672 โดส และเข็มสาม 523,991 โดส ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคจากประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะนี้จัดสรรไปพื้นที่ต่าง ๆ ตามแผน พร้อมกำหนดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าในพื้นที่ใดที่แจ้งความประสงค์แต่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขอให้แจ้งเพิ่มเติมได้ตามหลักเกณฑ์ ผ่านหน่วยงานของท่านมายังกระทรวงสาธารณสุข ขอให้มั่นใจว่าวัคซีนจะไม่สูญหายและไม่มีกลุ่มอื่นนอกเหนือที่กำหนด โดยวันนี้ทราบว่าหลายจังหวัดเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับกลุ่มเสี่ยงแล้ว อาทิสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี เป็นต้น ทั้งนี้ หากประชาชนพบเหตุการณ์หรือมีข้อสงสัย สามารถแจ้งให้ตรวจสอบได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

         สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับผู้ป่วยโควิด 19 ที่ได้รับการรักษาแล้วและกลับมาใช้ชีวิตในชุมชน คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีข้อแนะนำว่า ผู้ป่วยโควิด 19 ที่เข้ารับการรักษาจนครบ 14 วัน หรือรักษาในโรงพยาบาลระยะหนึ่งจนอาการปกติแล้วกลับมากักตัวที่บ้านต่อจนครบ 14 วัน นับจากวันที่เริ่มป่วย จัดเป็นผู้ที่พ้นระยะการแพร่เชื้ออยู่ในระยะที่ร่างกายฟื้นตัว จึงไม่จำเป็นต้องแยกกักตัว และไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อซ้ำ เพราะยังสามารถตรวจเจอซากเชื้อ แต่ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ ที่สำคัญคือ ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ติดเชื้อ

 *********************************** 15 สิงหาคม 2564

**************************************



   
   


View 3068    15/08/2564   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ