สธ. สอบสวนโรคกรณี เด็กนักเรียนระยอง 2 แห่ง ป่วยเป็นอุจจาระร่วงหลังร่วมงานกีฬาสี ส่วนใหญ่อาการป่วยไม่รุนแรง
- สำนักสารนิเทศ
- 731 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข ห่วงหลังปีใหม่อาจพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว ย้ำกลับมาทำงานให้เฝ้าสังเกตอาการตนเอง 14 วัน เน้นทำงานที่บ้าน และตรวจ ATK ก่อนกลับเข้าทำงานเผย “ร้านอาหารกึ่งผับ” ไม่ทำตามมาตรการ เป็นต้นเหตุหลายคลัสเตอร์ ย้ำจังหวัดเอาผิดตามกฎหมายเตรียมเสนอเลื่อนระบบ Test &Go ออกไปต่อ ส่วนผับบาร์อีก 1 เดือนค่อยประเมิน
วันนี้ (4 มกราคม 2565) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 ว่า วันนี้ประเทศไทยรายงานผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่ 3,091 ราย โดยมาจากต่างประเทศ 124 ราย รักษาหาย 2,688 ราย ผู้เสียชีวิต 12 ราย ยังเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ดังนั้น ขอให้ลูกหลานพาผู้สูงอายุไปรับวัคซีน ส่วนสถานการณ์ ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เดินทางเข้าประเทศมีโอกาสนำเชื้อเข้ามามากขึ้น จึงได้ชะลอการเข้าประเทศในระบบ Test & Go ซึ่งพบการติดเชื้อประมาณ 2% เหลือระบบภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และระบบกักตัว อย่างไรก็ตามผู้ที่ลงทะเบียนระบบ Test & Go ไว้และยังไม่ได้เดินทางมา ยังไม่อยากให้เดินทางเข้ามาในขณะนี้ เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงการนำเชื้อเข้าประเทศ จึงจะเสนอเลื่อนระบบ Test & Go ออกไปอีก ส่วนระบบแซนด์บ็อกซ์ จังหวัดที่มีความพร้อมสามารถขออนุญาตเปิดแซนด์บ็อกซ์เพิ่มเติมได้
“แนวโน้มผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลง แต่มีสัญญาณผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลังปีใหม่ เนื่องจากมีกิจกรรมเฉลิมฉลอง การเดินทางและท่องเที่ยว โดยเฉพาะจังหวัดที่แหล่งท่องเที่ยวหรือเป็นเมืองใหญ่ที่คนต้องกลับเข้ามาทำงาน ดังนั้น หลังกลับจากปีใหม่ให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเอง 14 วัน เน้นทำงานที่บ้าน หากต้องกลับเข้าทำงานให้ตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ และหากพบผลบวกให้ติดต่อสายด่วน 1330 เพื่อลงทะเบียนและเข้าระบบดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) หากพบการระบาดในโรงงาน ให้แยกมารักษา ไม่ควรปิดโรงงาน เพราะจะเกิดการกระจายตัวกลับบ้านทำให้เกิดการแพร่เชื้อมากขึ้น ซึ่งหากเร่งรัดการฉีดวัคซีน และยังป้องกันตนเองสูงสุดใช้มาตรการ COVID Free Setting จะช่วยให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไม่สูงขึ้นเหมือนที่คาดการณ์ได้” นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ส่วนแนวโน้มการติดเชื้อในประเทศระยะหลัง เกิดจากกิจกรรมรวมตัวโดยไม่ใส่หน้ากาก อยู่ในห้องปิดอับ โดยเฉพาะร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งผับบาร์ยังไม่มีนโยบายให้เปิด หลายร้านจึงปรับมาขออนุญาตเปิดเป็นร้านอาหาร แต่ยังปฏิบัติเหมือนเป็นผับบาร์ตามเดิม ไม่ทำตามมาตรการ COVID Free Setting เช่นกรณี จ.อุบลราชธานี พบมีการปิดม่าน อากาศไม่ถ่ายเท โต๊ะเก้าอี้หนาแน่น แสดงดนตรี ดื่มสุรา ส่งเสริมการขาย ไม่สวมหน้ากาก พูดคุยเสียงดัง และร้องเพลง ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีความผิดทั้ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ย้ำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเข้มงวดสถานที่เสี่ยงเหล่านี้ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการให้ดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด ส่วนประชาชนขอให้งดไปใช้บริการเพราะอาจนำเชื้อกลับไปติดผู้สูงอายุที่บ้านและมีความเสี่ยงอาการหนักและเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ อีกประมาณ 1 เดือนจึงจะพิจารณาเรื่องการเปิดผับบาร์อีกครั้ง
************************************** 4 มกราคม 2565