กระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือป้องกันควบคุมโรคโควิด หลังแจ้งเตือนเป็นระดับ 4 ป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อสูงขึ้นจนถึงหลักหมื่นคน แนะงดไปสถานที่เสี่ยงที่ระบายอากาศไม่ดี งดดื่มสุราในร้าน เลี่ยงการรวมตัวจำนวนมาก เดินทางข้ามจังหวัดเท่าที่จำเป็น งดเดินทางข้ามประเทศ ป้องกันตนเองสูงสุด และตรวจ ATKเป็นประจำ

          วันนี้ (6 มกราคม 2565) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 ว่า ขณะนี้การติดเชื้อโควิด 19 ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากเป็นไปตามคาดการณ์ หากไม่มีมาตรการหรือความร่วมมือของประชาชน อาจติดเชื้อรายวันเกินหมื่นคนในเร็ววันนี้ แต่การเสียชีวิตยังมีแนวโน้มลดลง ดังนั้น แม้สายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงน้อย แต่กลุ่มเสี่ยงยังมีโอกาสเสียชีวิตได้ จึงต้องขอให้ผู้ที่ยังไม่รับวัคซีนหรือถึงกำหนดรับวัคซีนมารับวัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ส่วนการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว มีการเดินทาง หรือเกิดคลัสเตอร์ เช่น ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ที่ทำผิดมาตรการ การมีกิจกรรมฉลองช่วงปีใหม่ งานเลี้ยงงานบุญ ดังนั้น หลังกลับจากปีใหม่ขอให้เน้นทำงานที่บ้านในช่วงสัปดาห์แรก หากจำเป็นต้องกลับเข้าไปทำงานให้ตรวจ ATK อย่างน้อย 2 ครั้งห่างกัน 3 วัน กรณีผลบวกให้ติดต่อสายด่วน 1330 เพื่อลงทะเบียนรับยา อุปกรณ์ และติดตามการรักษา

          นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับการประกาศแจ้งเตือนภัยโควิดระดับ 4 เพื่อขอความร่วมมือ คือ 1.งดไปสถานที่เสี่ยงที่ระบบระบายอากาศไม่ดี แออัด ไม่ใส่หน้ากาก งดรับประทานอาหารและดื่มสุราในร้าน 2.หลีกเลี่ยงกิจกรรมรวมตัวจำนวนมาก 3.เดินทางข้ามจังหวัดเท่าที่จำเป็น ขอให้งดโดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท แต่หากมีความจำเป็นขอให้ระมัดระวัง ซึ่งขนส่งสาธารณะมีมาตรการเข้มงวด ทั้งใส่หน้ากาก ตรวจ ATK กรณีใช้เวลาโดยสารนาน  และ 4.งดเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากต่างประเทศมีการระบาดสูง และผู้เดินทางกลับมาติดเชื้อจำนวนมาก และช่วงนี้ขอให้ป้องกันตนเองด้วย VUCA ส่วนมาตรการทางกฎหมาย เช่น การปรับพื้นที่สี หรือการปิดสถานที่ต่างๆ ศบค.จะมีการประชุมเพื่อปรับมาตรการวันที่ 7 มกราคม 2565 ต่อไป

          “สถานที่เสี่ยงมี 3 ปัจจัย คือ ระบบระบายอากาศไม่ดี คนรวมตัวจำนวนมาก และไม่ใส่หน้ากากอนามัย ดังนั้น โรงงานที่มีระบบระบายอากาศดี เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ไม่จับกลุ่มรับประทานอาหารหรือสูบบุหรี่ร่วมกัน ไม่ถือเป็นสถานที่เสี่ยง หากพบผู้ติดเชื้อไม่แนะนำให้ปิดโรงงาน เพราะเสี่ยงคนงานกระจายตัวกลับบ้านไปแพร่เชื้อ แต่ให้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เช่นเดียวกับโรงเรียนก็ไม่ใช่สถานที่เสี่ยง เพราะมีมาตรการดูแลอย่างดี คัดกรองบุคลากรทางการศึกษาเป็นระยะ แต่ต้องลดความเสี่ยงจุดรับประทานอาหารและการรวมตัวทำกิจกรรม”นพ.โอภาสกล่าว

 ************************************** 6 มกราคม 2565

*********************************************

 

 



   
   


View 1339    06/01/2565   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ