รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งตรวจสอบกรณีเด็กวัย 2 เดือน เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตับอักเสบบี หยอดวัคซีนโปลิโอที่สถานีอนามัยใน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เผยผลการผ่าศพชันสูตรเบื้องต้น พบปอดบวมน้ำทั้ง 2 ข้าง ไม่พบสัญญาณความผิดปกติของการแพ้ยาหรือวัคซีน ต้องรอผลตรวจชิ้นเนื้อโดยละเอียดคาด 1 สัปดาห์ ยืนยันวัคซีนทุกล็อตที่ใช้ฉีดป้องกันโรคในไทย ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด วอนประชาชนอย่าตระหนก แนะหากเด็กมีไข้ คลอดก่อนกำหนด หรือมีอาการผิดปกติ ก่อนฉีดวัคซีนผู้ปกครองต้องแจ้งแพทย์ก่อน จากกรณีเด็กหญิงอายุ 2 เดือน ที่ ต.บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยักและไวรัสตับอักเสบบี และหยอดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ (DPT+Hepatitis B +Polio) ที่สถานีอนามัยบ้านหม้อ อ.พิชัย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2551 ในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายวันเดียวกันเด็กมีไข้ มารดาพาไปพบเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยพญาแมน ได้รับยาลดไข้พร้อมแนะนำให้เช็ดตัว หลังกลับบ้านอาการไม่ดีขึ้น เวลา 18.00 น. เด็กซึมลง ไม่กินนม และนอนหลับ ต่อมาช่วง 21.00 น. มารดาพบว่าเด็กตัวเขียว จึงพาไป รพ.พิชัย แพทย์ตรวจสัญญาณชีพไม่ได้เนื่องจากเด็กเสียชีวิตมาแล้ว จึงส่งศพชันสูตรที่ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ในวันเดียวกัน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ความคืบหน้าเรื่องนี้ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักระบาดวิทยา ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ ตรวจสอบเป็นการด่วน ขณะนี้ยังไม่ได้ผลสรุปที่ชัดเจนว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือมาจากสาเหตุอื่น ต้องรอผลการตรวจชิ้นเนื้อของ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก คาดว่าจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ได้กำชับให้ทำหนังสือแจ้งเวียนให้สถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ตรวจสอบคุณภาพวัคซีน และดูแลเด็กทั้งก่อนและหลังฉีดวัคซีนด้วย นายวิชาญ กล่าวต่อไปว่า จากข่าวดังกล่าวนี้ ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก ขอให้นำบุตรหลานไปรับวัคซีนตามกำหนด เนื่องจากวัคซีนเป็นเรื่องจำเป็นที่ใช้ในการสร้างภูมิต้านทานโรค ไม่ให้เด็กป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข มีบริการวัคซีนทั้งหมด 10 ชนิด ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงวัยปฐมศึกษาฟรี และทำการควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยของวัคซีนอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ผลกระทบจากการฉีดวัคซีนพบได้น้อยมาก นานๆ จึงจะเกิดสักครั้ง ทางด้านนายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้รับแจ้งผลการผ่าศพตรวจชันสูตรในเบื้องต้น พบว่าปอดบวมน้ำทั้ง 2 ข้าง ซึ่งภาวะนี้เกิดจากการติดเชื้อได้หลายอย่าง ส่วนเยื่อบุหลอดลมหรือทางเดินหายใจปกติ ไม่มีอาการบวม ซึ่งไม่น่าจะเกิดจากการแพ้วัคซีน โดยแพทย์ได้ตัดชิ้นเนื้อจากอวัยวะทุกส่วนตรวจโดยละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนอื่นต่อไป จะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ นายแพทย์ธวัช กล่าวต่อว่า ปกติเด็กอายุ 1 ปีแรก จะเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อหรือภาวะอื่นๆ ได้อยู่แล้ว เนื่องจากร่างกายยังไม่มีภูมิต้านทานโรคหรือมีน้อย การป้องกันโรคจึงต้องฉีดวัคซีน เพื่อกระตุ้นภูมิต้านทานให้มีต่อโรคต่างๆ แต่หากเด็กมีไข้หรือมีโรคประจำตัวอื่น หรือเป็นเด็กที่คลอดก่อนกำหนด พ่อแม่จะต้องแจ้งอาการผิดปกติของเด็กทุกครั้ง และหลังฉีดอาจเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น มีไข้ ปวดบวมแดงร้อนที่รอยฉีด เป็นเรื่องปกติพบได้ประมาณร้อยละ 20 อาการจะหายภายใน 1-2 วัน หากผิดปกติ เช่น ไข้ไม่ลด มีอาการชักกระตุก แผลบวมไม่ยุบ ให้พาไปพบแพทย์ทันที ทางด้านนายแพทย์ขจร วินัยพานิช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2551 ทีมแพทย์ พยาบาลของ รพ.พิชัย พบว่าเด็กมีน้ำลายฟูมปากและจมูก ปากมือเท้าเด็กเขียว ตัวซีดเย็น วัดสัญญาณชีพไม่ได้ และเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว ในวันนี้ (14 กรกฎาคม 2551) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาไปติดตามอาการเด็กจำนวน 10 รายที่ได้รับวัคซีนในวันเดียวกัน และเก็บวัคซีนล็อตที่ฉีดทั้งจังหวัด ส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากการติดตามเด็กที่ได้รับวัคซีนขวดเดียวกับเด็กที่เสียชีวิตและวัคซีนล็อตเดียวกันทั้งจังหวัด ไม่พบเด็กรายใดมีผลข้างเคียง ได้สั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งในจังหวัด เฝ้าระวังติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีนเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ***************************** 14 กรกฎาคม 2551


   
   


View 17    14/07/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ