รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการชุดจัดการโควิด 19 สู่โรคประจำถิ่นครั้งแรก เพื่อรับฟังความเห็นและเตรียมการผ่อนคลายเป็นระยะ ให้มีความสมดุลทั้งมาตรการทางการแพทย์และสาธารณสุข มาตรการทางเศรษฐกิจ และมาตรการทางสังคมและองค์กร ชี้สถานการณ์การระบาดลดลงต่อเนื่อง คาดปลาย พ.ค.นี้ จะเข้าสู่ระยะโรคลดลง และอาจพิจารณาลดระดับการแจ้งเตือนภัยเป็นระดับ 2

          วันนี้ (12 พฤษภาคม 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดการสถานการณ์โรคโควิด 19 สู่โรคประจำถิ่น (Endemic) ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

          นายอนุทินกล่าวว่า จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยขณะนี้เริ่มมีแนวโน้มลดลงและอยู่ในการควบคุม ประชาชนมีภูมิคุ้มกันที่มากเพียงพอ สามารถเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นหรือโรคติดต่อทั่วไปได้ จึงต้องเตรียมการเพื่อปรับรูปแบบการบริหารจัดการและการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตในวิถีปกติใหม่และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุมและบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันกำหนดแผน มาตรการและแนวทางข้อเสนอให้สามารถควบคุมสถานการณ์และเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้อย่างเหมาะสม

          “การประชุมครั้งแรกวันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบข้อเสนอการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดการสถานการณ์โรคโควิด 19 สู่โรคประจำถิ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อกำหนดมาตรการทางการแพทย์และสาธารณสุข มาตรการทางเศรษฐกิจ และมาตรการทางสังคมและองค์กร ให้มีความสมดุลสอดคล้องกัน รวมถึงการสร้างความร่วมมือของประชาชนในการรับมือและปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับโควิด 19 ที่เปลี่ยนมาเป็นโรคประจำถิ่นหรือโรคติดต่อทั่วไปได้อย่างปลอดภัย” นายอนุทินกล่าว

          นายอนุทินกล่าวต่อว่า จากแผนและมาตรการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด 19 สู่โรคประจำถิ่น ที่มี 4 ระยะ คือ ระยะต่อสู้กับโรค (Combatting) ระยะโรคทรงตัว (Plateau) ระยะโรคลดลง (Declining) และระยะหลังการระบาด (Post pandemic) ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในระยะทรงตัว จึงประกาศลดระดับการเตือนภัยโควิดจากระดับ 4 มาเป็นระดับ 3 พร้อมดำเนินงานในแต่ละด้าน คือ 1.ด้านสาธารณสุข เดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากกว่าร้อยละ 60 เน้นเฝ้าระวังการระบาดที่เป็นกลุ่มก้อน และผู้ป่วยปอดอักเสบ และผ่อนคลายมาตรการสำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 2.ด้านการแพทย์ ปรับแนวทางการดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก เน้นดูแลผู้ป่วยที่เสี่ยงอาการรุนแรง มีอาการรุนแรง และภาวะลองโควิด 3.ด้านกฎหมายและสังคม เตรียมการด้านกฎหมายของทุกหน่วยงานให้สอดคล้องกับการปรับตัวสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ลดการจำกัดการเดินทางและการรวมตัวของคนหมู่มาก ส่งเสริมมาตรการ Universal Prevention และมาตรการ COVID Free Setting และ 4.ด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ เน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด 19 อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ คาดว่าช่วงปลายเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้ สถานการณ์จะเข้าสู่ระยะโรคลดลง (Declining) และจะมีการผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงจะประกาศลดระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 2

*************************** 12 พฤษภาคม 2565

*************************



   
   


View 3027    12/05/2565   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ