สธ. สอบสวนโรคกรณี เด็กนักเรียนระยอง 2 แห่ง ป่วยเป็นอุจจาระร่วงหลังร่วมงานกีฬาสี ส่วนใหญ่อาการป่วยไม่รุนแรง
- สำนักสารนิเทศ
- 744 View
- อ่านต่อ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายให้ทุกหน่วยบริการ ใน อ.หนองใหญ่ อ.บ่อทอง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพบุคลากรและการบริการ สร้างความเชื่อมั่นด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่นักลงทุน รองรับพื้นที่ EEC และดูแลผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำให้เข้าถึงการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป เพิ่มภูมิต้านทานโรคโควิด 19 พร้อมฝากอสม.นำประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 และเป็นตัวอย่างด้านพฤติกรรมสุขภาพที่ดี
วันนี้ (2 กันยายน 2565) ที่ จ.ชลบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายอารยะ โรจนวณิชชากร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 6 นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย นพ.อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ติดตามการดำเนินงานให้บริการประชาชน ของโรงพยาบาลหนองใหญ่ โรงพยาบาลบ่อทอง และโรงพยาบาลบ้านบึง พร้อมเยี่ยมเสริมพลังและมอบนโยบายแก่ตัวแทน อสม. อ.หนองใหญ่ อ.บ่อทอง และอ.บ้านบึง รวมกว่า 500 คน
ดร.สาธิต กล่าวว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ของรัฐบาล จะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาประกอบกิจการจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับประเทศ อ.หนองใหญ่ อ.บ่อทอง และ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ EEC จึงจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งบุคลากรผู้ให้บริการและการบริการต่างๆ ให้มีความสะดวก สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและช่วยดึงดูดผู้ประกอบการให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ได้มากขึ้น สำหรับการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ได้มอบนโยบายให้หน่วยบริการจัดบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชนให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งภาพรวมของ จ.ชลบุรี ปัจจุบันประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว 90.51% โดยกลุ่ม 608 ครอบคลุม 84% และมีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว 47.32% ได้ให้เร่งสำรวจหาผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น กลุ่มผู้ป่วยฟอกไต
กลุ่มผู้ป่วยเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ปลูกถ่ายไขกระดูก หรือกลุ่มภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น ให้ได้รับการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ป้องกันโรคโควิด 19
ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณ อสม. ที่ทำงานเป็นจิตอาสาช่วยบุคลากรการแพทย์ดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ทำให้จังหวัดชลบุรีที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากสามารถควบคุมโรคได้ และขอให้ อสม. ช่วยชักนำประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้นให้ครบตามเกณฑ์ รวมถึงเป็นตัวอย่างที่ดีด้านพฤติกรรมสุขภาพ ทั้งการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร เพื่อช่วยให้ประชาชนมีร่างกายที่แข็งแรง ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะดูแลเรื่องขวัญกำลังใจอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ครม. ได้อนุมัติค่าตอบแทนและค่าเสี่ยงภัยในการเฝ้าระวังและควบคุมโรคโควิด 19 แก่ อสม./อสส. เดือนเมษายน และพฤษภาคม เดือนละ 500 บาทต่อคนแล้ว และได้เสนอเรื่องให้ขยายต่อเนื่องจนถึงเดือนกันยายน 2565 นอกจากนี้ ได้ปรับระเบียบ ฌกส. อสม. ให้คู่สมรสสามารถสมัครฌาปณกิจสงเคราะห์ได้เพื่อเป็นหลักประกันให้กับครอบครัวเมื่อเสียชีวิต
************************************** 2 กันยายน 2565