รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมนานาชาติ “IMCAS Asia 2022 15th Edition and 10th ITCAM” เผย ตลาดอุตสาหกรรมความงามแนวโน้มเติบโตสูง และไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศชั้นนำด้านศัลยกรรมตกแต่งของโลก มีสถานบริการที่ได้มาตรฐาน บุคลากรเชี่ยวชาญสูง ให้บริการระดับโลก พร้อมก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านความงามได้

         วันนี้ (29 กันยายน 2565) ที่ โรงแรมดิ แอทธินี กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมนานาชาติ “IMCAS Asia 2022 15th Edition and 10th ITCAM” (International THAICOSDERM Congress on Aesthetic Medicine) พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “Thailand going forward as Asian Aesthetic Hub” ว่า ประเทศไทยมีนโยบายสนับสนุนนการพัฒนาบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Health Hub) โดยเวชศาสตร์ความงามเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตสูง และคาดว่าหลังพ้นการระบาดของโรคโควิด 19 ตลาดด้านนี้จะมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นจากปัจุบันถึง 10% ในปี 2573 ซึ่งอุตสาหกรรมเวชศาสตร์ความงามของประเทศไทยถือว่ามีชื่อเสียงในระดับโลก โดยข้อมูลจาก International Society of Aesthetic Plastic Surgery ปี 2561 ประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศชั้นนำด้านศัลยกรรมตกแต่งของโลก และได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเข้าใช้บริการสูงสุด ด้วยความพร้อมทั้งคุณภาพของสถานบริการ เทคโนโลยีขั้นสูง บริการที่สะดวกสบายในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางด้านเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงาม จากการที่เรามีสมุนไพรท้องถิ่นที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอางกว่า 200,000 รายการ มีการนำภูมิปัญญาดั้งเดิมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ จนปัจจุบันประเทศไทยได้กลายเป็นตลาดเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน

          นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการบริการสุขภาพ คือ ความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถานพยาบาลกว่า 60 แห่ง ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล Joint Commission International (JCI) และสถานบริการภาครัฐและเอกชนอีกกว่า 740 แห่งในจังหวัดท่องเที่ยว ยังผ่านการรับรองมาตรฐาน HA ซึ่งเมื่อผนวกกับการที่เรามีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีทักษะสูงและการบริการที่อยู่ในระดับโลก จะทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมที่ก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านความงาม และมีส่วนร่วมในการพัฒนาทางวิชาการ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงโอกาสในด้านอื่นๆ อีกมาก

 ****************************************** 29 กันยายน 2565

**********************************************

 



   
   


View 490    29/09/2565   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ