ปลัด สธ. ติดตามการดูแลรักษา “พระ-ผู้แสวงบุญ” ในดินแดนพุทธภูมิ จัดส่งทีมแพทย์ 6 รุ่น รวม 60 คน
- สำนักสารนิเทศ
- 16 View
- อ่านต่อ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในงานปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นศูนย์บริการวัคซีนโควิด 19 ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลังสถานการณ์โรคโควิด 19 ดีขึ้น ประชาชนได้รับวัคซีนครอบคลุมเพียงพอ พร้อมจัดงานขอบคุณจิตอาสา หน่วยงานและองค์กร ภาคประชาชนต่างๆ ที่ร่วมสนับสนุนภารกิจตลอดมา
วันนี้ (30 กันยายน 2565) ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานงานปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และพญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนังและผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เข้าร่วม
นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ประชากรทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยได้รับวัคซีนโควิด 19 ตามความสมัครใจและไม่คิดมูลค่า ให้มีความครอบคลุมมากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีภูมิคุ้มกันมากเพียงพอและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว ช่วยฟื้นคืนเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ซึ่งศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ให้บริการแก่ผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะเป็นกลุ่มแรก เพราะถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูงและเพื่อทดสอบระบบการดำเนินงาน เมื่อระบบมีความเสถียรแล้วจึงเปิดให้บริการประชาชนกลุ่มต่างๆ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 โดยใช้พื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความแออัดในการเข้าใช้บริการฉีดวัคซีนในสถานพยาบาล และเพื่อให้เป็นไปตามแผนการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชน โดยมีสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เป็นหน่วยงานหลักในการให้บริการฉีดวัคซีนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และจิตอาสาจวบจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 477 วัน ให้บริการประชาชนไปแล้วกว่า 3.5 ล้านคน รวมมากกว่า 6.5 ล้านโดส ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ปัจจุบันสถานการณ์โควิด 19 อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ประชาชนได้รับวัคซีนจำนวนมากทำให้มีภูมิคุ้มกันเพียงพอ ช่วยลดอาการรุนแรงของโรคได้ เป็นสัญญาณที่ดีพร้อมรับการปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป จึงมีการปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ และเปิดให้ประชาชนที่ประสงค์จะรับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น รับบริการได้ตามความสมัครใจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
“ในนามของรัฐบาล ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานให้บริการประชาชนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อแห่งนี้ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้านการแพทย์ การเป็นจิตอาสาต่างๆ หรือการสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ราบรื่น ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการรับบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ตลอดระยะเวลาที่เปิดให้บริการ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในโอกาสต่อไป เพื่อให้ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจแข็งแรง และประเทศไทยแข็งแรง” นายอนุทินกล่าว
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเสริมว่า กรมการแพทย์มอบหมายให้สถาบันโรคผิวหนัง ดำเนินการให้บริการช่วยเหลือประชาชนโดยไม่จำกัดพื้นที่ที่อยู่อาศัย ไม่จำกัดสัญชาติ ให้ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง เข้าถึงได้ง่าย สะดวกสบายทั้งในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง เป็นศูนย์กลางการให้บริการวัคซีนอย่างแท้จริง แม้จะปิดบริการที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อไปแล้ว ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน สามารถรับบริการที่สถาบันโรคผิวหนัง หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพราะวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ยังเป็นทางออกที่สำคัญของวิกฤตการณ์นี้
ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ กล่าวว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ประชาสังคม ประชาชน กว่า 251 แห่ง ซึ่งได้ร่วมกันดำเนินงานตามแนวค่านิยม “HEAD HAND HEART ทำงานด้วยสมอง สองมือ และหัวใจ” ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากประชาชนผู้รับบริการ โดยไม่ว่าจะประสบเหตุการณ์ใดๆ ประชาชนก็พร้อมจะเคียงข้าง เข้าใจ และเป็นกำลังใจให้เสมอ แรงสนับสนุนจากทุกภาคส่วนนี้ทำให้เราสามารถร่วมฝ่าฟันวิกฤตและปฏิบัติภารกิจระดับชาตินี้ได้เป็นผลสำเร็จที่งดงามไปด้วยกันได้ในที่สุด ซึ่งประสบการณ์และการถอดบทเรียนต่างๆ จากการดำเนินงานศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่นี้ จะเป็นหลักประกันที่มั่นคงว่าระบบสาธารณสุขของเรามีความพร้อม มีศักยภาพเพียงพอที่จะรับมือและสามารถฝ่าวิกฤติใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน ทางศูนย์ฯ จึงได้จัดพิธีปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่ออย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายนนี้ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อจิตอาสา หน่วยงาน/องค์กรต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนภารกิจจนประสบความสำเร็จอย่างสูง และการปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวก (Positive signal) ว่าประเทศเราได้ผ่านวิกฤติโควิด 19 นี้ไปได้แล้ว และพร้อมที่จะเดินหน้าอย่างมั่นคง ยั่งยืน ต่อไป
****************************************** 30 กันยายน 2565