สธ.จับมือกระทรวงยุติธรรม “ตั้งมิสเตอร์ทีบี” ปราบเชื้อวัณโรคในเรือนจำ

สาธารณสุขจับมือกระทรวงยุติธรรม ควบคุมวัณโรคในเรือนจำ ตั้งมิสเตอร์ทีบี ในเรือนจำ 141 แห่งทั่วประเทศ ดูแลผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำให้กินยาอย่างต่อเนื่องจนครบสูตร 6 เดือน มีระบบดูแลเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ หลังพบปัญหาผู้ต้องขังร้อยละ 16 ขาดการรักษาหลังพ้นโทษ และเสียชีวิตร้อยละ 10 วันนี้ (18 กันยายน 2551) ที่อาคารซอฟแวร์ปาร์ค กระทรวงยุติธรรม จ.นนทบุรี นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือการควบคุมวัณโรคในเรือนจำ ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อลดปัญหาวัณโรคในเรือนจำ ป้องกันเชื้อวัณโรคดื้อยา และป้องกันการป่วยด้วยวัณโรคในกลุ่มผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ต้องขัง ภายหลังพิธีลงนาม นายแพทย์ปราชญ์กล่าวว่า วัณโรคหรือโรคทีบี (Tuberculosis) เป็นภัยสาธารณสุขที่สำคัญในเรือนจำ เนื่องจากผู้ต้องขังมีโอกาสป่วยเป็นวัณโรคได้มาก โดยเฉพาะประวัติก่อนถูกคุมขัง เช่น การฉีดยาเสพติดเข้าเส้น การดื่มสุรา ฐานะยากจน และการติดเชื้อเอชไอวี รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำ ที่อยู่รวมกันอย่างใกล้ชิด การระบายอากาศไม่เพียงพอ ในความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาผู้ต้องขัง ทั้งคนไทยและต่างชาติที่ป่วยด้วยวัณโรคให้หายขาด โดยดำเนินการในเรือนจำทั้งหมด 141 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้ต้องขังประมาณ 180,000 คน จากข้อมูลล่าสุดในปี 2550 มีผู้ต้องขังป่วยด้วยวัณโรคประมาณร้อยละ 10 การรักษาในภาพรวมยังไม่ประสบผลสำเร็จ มีอัตรากินยาครบเพียงร้อยละ 71 ซึ่งยังต่ำกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้คือ ต้องมากกว่าร้อยละ 85 โดยผู้ต้องขังที่ป่วยและพ้นโทษมีอัตราไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่องร้อยละ 16 และเสียชีวิตระหว่างรักษาร้อยละ 10 เนื่องจากติดเชื้อเอชไอวีด้วย จึงต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะวัณโรคที่เป็น ร้อยละ 82 เกิดที่ปอด เชื้อสามารถแพร่กระจายสู่คนรอบข้างได้ประมาณ 20 คน โดยกระทรวงสาธารณสุข จะจัดทีมสุขภาพ เข้าไปตรวจรักษาผู้ป่วยวัณโรคร่วมกับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ เพื่อให้ระบบการดูแลเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ร่วมกันค้นหาผู้ป่วยวัณโรคทุก 6 เดือน ผู้ป่วยวัณโรคที่ติดเชื้อเอชไอวี จะได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีควบคู่กันด้วย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งจะป้องกันการเสียชีวิตระหว่างรักษาวัณโรคได้ โดยจะมีการจัดทำทะเบียนผู้ป่วย และติดตามการรักษาหากพ้นโทษไปแล้วแต่ยังกินยารักษาวัณโรคไม่ครบสูตรคือ 6 เดือน ผู้ป่วยทุกรายให้การรักษาฟรี ทางด้านนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมจะรณรงค์การให้ความรู้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และผู้ต้องขังในเรือนจำ เพื่อควบคุมวัณโรคในเรือนจำทุกแห่ง โดยจะตั้งมิสเตอร์ทีบี ในเรือนจำทุกแห่ง เป็นผู้ประสานงานหลักในการค้นหาและรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข มีการฝึกทีมเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้ป่วยรายใหม่นอกเวลาราชการ และดูแลกำกับการกินยาของผู้ป่วยจนครบสูตร โดยจัดห้องแยกให้ผู้ป่วยที่อยู่ระยะแพร่เชื้อ จัดระบบระบายอากาศในเรือนจำตามมาตรฐานของประเทศ เพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทดีขึ้น และให้สถานพยาบาลเรือนจำ จัดทำทะเบียนผู้ป่วยและรายงาน เพื่อสามารถติดตามรักษาผู้ป่วยได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อจัดทำแผนควบคุม วัณโรคทุก 2 ปี และติดตามผลทุก 6 เดือน รวมทั้งจัดทำคู่มือและมาตรฐานในการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำร่วมกัน โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งแพทย์หญิงศรีประพา เนตรนิยม เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ***********************18 กันยายน 2551